2 พฤษภาคม 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

            ทุกครั้งที่เราไหว้พระ ธูปที่ใช้จุดปกติก็คือสามดอก ส่วนไหว้เทพหรือพรหมจะเป็นเก้าดอกหรือสิบหกดอก ซึ่งผู้เขียนจะไม่นำมากล่าวในที่นี้…แต่ถ้าไหว้เพียงดอกเดียว คือการไหว้ผีที่ล่วงลับ…คนสมัยใหม่ไม่รู้ว่าควรไหว้ยังไงและต้องใช้ธูปกี่ดอก แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น

            เที่ยว…เที่ยว…เที่ยว…การพักผ่อนที่ดีที่สุดนอกจากการนอนแล้วก็คือการเที่ยว ในที่นี้หมายถึงไปพักผ่อน เที่ยวชมธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพรและทะเล ทุกครั้งที่มีโอกาสและมีวันหยุดยาวๆ จะรีบจิ้มปฏิทินและค้นหาสถานที่พักผ่อนกับกลุ่มเพื่อนฝูงหรือครอบครัว…เราควรให้รางวัลกับชีวิตกันบ้างจริงไหมคะ

            ได้การแล้ว วันหยุดเขาประกาศมาหมาดๆ ฉันเริ่มคำนวณในหัวว่าจะชวนเพื่อนไปไหนกันดี  แล้วปิ๊งไอเดียว่าเราน่าจะไประยองกันดีกว่า หมายกำหนดการเดินทางมาอย่างเรียบร้อย พวกเราทั้งหกคนมี โอ บี ตูน จ๋า หนิง และฉัน เราเก็บกระเป๋าทันที

            “หนิง สรุปพักที่ไหน อย่าบอกนะว่าน็อกดาวน์เคาะเอา…ถ้าเต็มไม่มีที่นอนนี่แย่เลยนะ”

            “มีเพื่อนอยู่ ไปพักบ้านเพื่อนฉัน ทีแรกก็ชวนมันแหละ มันบอกมันไปไม่ได้ แต่มีน้ากะยายมันอยู่ มันบอกมีบ้านอีกหลังไม่มีใครอยู่ เราพักได้ พวกแกก็ดูก่อน ถ้าไม่ไหวก็ไปหาโรงแรมพัก…แต่ที่นี่ฉันเคยมาพักแล้วสองสามครั้ง แต่มันก็บอกนะถ้าไม่สะดวก มันจะให้เพื่อนมันหาให้ แถวๆ บ้านเพมีเยอะ”

            “มันจะเต็มนะสิ เอาดีๆ หนิง ให้เพื่อนแกหาที่พักให้เลยดีกว่า อย่าไปกวนคนแก่เลย ถ้าเพื่อนแกไปด้วยก็ว่าไปอย่าง”

            “เฮ้ยได้…ก็เมื่อก่อนบ้านมันก็ให้คนเช่าพัก อยู่ติดทะเลเลยนะจะบอกให้ บรรยากาศนี้สุดๆ….เช้าขึ้นมาเสียงคลื่นซัดซ่าๆ เลย แต่ตอนหลังไม่มีคนช่วยดูแล เหลือแต่น้ากะยายเขาเลยให้แต่คนรู้จักพัก”

            “เออๆ แล้วไป…แกมีเพื่อนที่ระยองด้วยเหรอ ไม่ยักรู้”

            “โอ๊ย…สงสัยจัง ก็อีอ๋อยไง เพื่อนสมัยมัธยม…อยากรู้อะไรอีกไหมนังพลอย”

            “แกก็บอกบ้านอีอ๋อยก็หมดเรื่อง….จบ” หนิงทำเสียงหงุดหงิดใส่ฉัน

            เป็นอันว่าทริปนี้จะมีต่ายกับเคตามไปด้วยทีหลัง

            “แล้วเคกับต่ายมันจะตามมากี่โมง มันจะรู้ไหมว่าเราพักที่ไหนหนิง”

            “เออ กูส่งโลเกชั่นให้มันแล้ว มันคงตามมาติดๆ นั่นแหละ”

            “เฮ้ยๆ…อีกสามตัวคุยได้นะเพื่อน ไม่ใช่นั่งกันเงียบ ช่วยคุยให้เจ้าโอมันขับคล่องๆ ช่วยกันดูทางด้วย เดี๋ยวเราแวะซื้อของที่ตลาดด้วยนะ หาอะไรเข้าไปทำกิน พวกของทะเล ซื้อลังโฟมใส่น้ำแข็งด้วย” ฉันพล่ามเหมือนคนพูดมาก

            “กูว่ากูพูดมากอยู่คนเดียวนะเนี่ย” แล้วเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานก็ดังขึ้น คราวนี้เมาท์กันอย่างเมามันจนเจ้าโอต้องบอกให้พวกเราเงียบๆ เสียงดังรบกวนสมาธิการขับรถและหาเส้นทาง หลังจากนั้นไม่นานเราก็มาถึงตลาดสด ช่วยกันหาซื้อของทะเล ขนม อาหารการกิน น้ำดื่ม พวกเราเตรียมพร้อมสรรพ จนเกือบบ่ายสามมีโทรถามทางจากเจ้าเคกับต่าย และพวกเราก็ไปถึงที่พักในเวลาไล่เลี่ยกัน

            ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้ผสมปูนเหมือนต่อเติมไปเรื่อย แทนที่จะเป็นหน้ากว้างกลับเป็นแถวยาวลึก แต่ก็ถูกกั้นเป็นห้องๆ ส่วนด้านหน้าติดทะเล มีพื้นที่เหมือนระเบียงเพราะตัวบ้านพื้นยกขึ้นสูง มองออกไปเห็นน้ำทะเลระยิบระยับ อากาศสดชื่นกำลังสบาย สักพักมีหญิงวัยกลางคนเดินยิ้มมาที่พวกเรา “เพื่อนอ๋อยใช่ไหม”

            พวกเราทั้งหมดพากันยกมือไหว้ แกถามไถ่แล้วแนะนำพวกเราว่าอะไรอยู่ตรงไหน ใช้อะไรได้ ทั้งหมดมีสามห้อง มีแอร์ทุกห้อง เราใช้ได้ทุกห้อง

            “กวาดถูเอาหน่อยนะ ป้าไม่ได้ทำเพราะไม่ได้เปิดให้เช่านานแล้ว ตามสบายนะ…อยากได้อะไรเพิ่มก็ขับรถออกไปทางโป๊ะปู มีร้านหนึ่ง แต่เขาปิดเร็วนะ ป้าไปก่อน พรุ่งนี้เช้าจะแวะมา ป้าไม่ได้พักที่นี่หรอก…พักอยู่โน่นบ้านหลังสีฟ้า ตามสบายนะ อ๋อยมันฝากไว้แล้ว”

            ฉันชะเง้อมองตามบ้านหลังสีฟ้าของป้าแก แต่ก็มองไม่ยักเห็น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครสนใจอะไร นอกจากช่วยกันขนข้าวของออกมาทำอาหารกินกัน

            พวกเราทำอาหารง่ายๆ เป็นพวกปิ้งย่าง เฮฮาปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน แถมลมทะเลเป็นใจพัดความเย็นสดชื่นเข้ามาตลอดเวลา รู้สึกสบาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณสี่ทุ่มกว่า พวกเราเพลินกันมาก ตอนนั้นฉันเพิ่งรู้สึกถึงลมที่เคยพัดมันสงบนิ่ง เพราะเริ่มมียุงกัดตามแขนตามขา พร้อมกับเสียงตบยุงเปาะแปะ

            “ยุงชุมจังวะ…เหมือนมันเฮโลมาไล่กัดเลยนะเนี่ย เราไม่ได้ซื้อยาทากันยุงมาด้วยสิ ร้านที่ป้าเขาบอกป่านนี้น่าจะปิดแล้ว ต้องไปหาดูตามห้องเผื่อจะมีพวกยากันยุงเหลือมั่ง”

            ฉันกับจ๋าเดินไปที่ห้องเพื่อค้นหายากันยุงเผื่อจะมีเหลือๆ บ้าง แต่พอเปิดลิ้นชักหัวเตียงเจอธูปอยู่หนึ่งห่อ ฉันได้ไอเดียทันที

            “จ๋า ไม่เจอยากันยุง แต่เจอธูปนี่ น่าจะใช้แทนได้ มีควันเหมือนกันนี่หว่า ไปๆ” ซึ่งขณะนั้นเราไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำนอกจากจะเอาควันธูปไปไล่ยุง

            “ไม่ได้ยากันยุงแต่ได้ธูปมา ควันน่าจะไล่ยุงได้  ไอ้โอจุดเลย จุดสี่ห้าดอกแหละ แล้วไปวางจุดละดอก ควันมันจะได้ไล่ยุง”

            เหมือนได้ผล พอควันลอยฟุ้งพร้อมกลิ่นหอมๆ ของธูป พวกยุงแมลงก็เงียบไป พวกเราก็ยังบันเทิงสนุกสนานเมาท์มอยกันไป สักพักมีเสียงเหมือนลูกมะพร้าวหล่นใส่หลังคาแล้วก็กลิ้งหลุนๆ ไปหล่นพื้นเสียงดังตุ้บ เราก็หันหน้าไปมองแต่ไม่ได้สนใจ ไม่ถึงห้านาที เสียงดังตุ้บที่สองก็ตามมา เราทั้งแปดคนชะงัก ไม่เพียงแค่นั้น คราวนี้เสียงเหมือนลูกมะพร้าวพากันทยอยหล่นใส่หลังคาแบบไม่หยุด พร้อมกับเสียงที่กลิ้งหลุนๆ หล่นพื้นดังตุ้บๆๆ เจ้าเคมันชะเง้อมองขึ้นไปบนหลังคา มันนิ่งอึ้งไปนิดนึงแล้วก็พูดว่า

            “พวกเราเข้าไปกินต่อกันในห้องเถอะ เร็ว ใครคว้าอะไรได้ก็รีบหยิบมา” มันพูดจริง แต่ตัวมันคว้าแก้วแล้ววิ่งนำหน้าเพื่อนวิ่งเข้าไปที่ห้องแรกที่ติดกับลานที่พวกเรานั่งดื่มกินกัน คราวนี้ที่เหลือวิ่งกรูตามเข้าไป สรุปทั้งแปดคนเข้าไปรวมกันอยู่ที่ห้อง ต่างคนต่างทำหน้าเลิ่กลั่กใส่กัน

            “มีอะไร หนีอะไรกันวะ…พวกแกเห็นอะไร วิ่งมาทำไม กูเห็นวิ่งก็วิ่งตามเข้ามามั่ง” ต่ายกับจ๋ามีอาการงงๆ

            “หูยยย…แกไม่เห็นเหรอ ใครเห็นมั่ง ตัวสูงปรี๊ดยืนเลยหลังคา แล้วเอามือปัดไปปัดมา….อูยยย ขนลุก” โอพูดไปทำท่าขนลุกไป

            “ใช่ๆ กูก็เห็น ทีแรกมองคิดว่าใบมะพร้าวพลิ้วไปพลิ้วมา ไอ้ห่า ไม่มีลมเลยใบมันจะพัดได้ไงวะ โคตรน่ากลัวเลย”

            “จุ๊ๆๆ…เบาๆ มันอยู่บนหัวเรา ได้ยินเสียงดังที่หลังคาไหม ดังกรากแกรก…กรากแกรก…นั่นๆ เสียงวี้ดๆ มันร้องใช่ป่ะ กูกลัว” พวกเราแทบจะกอดกันกลม ทั้งเสียงแกรกกรากบนหลังคากับเสียงร้องวี้ดๆ เหมือนมีคนเป่านกหวีด ฉันรู้สึกเหงื่อแตกซึมทั้งตัวทั้งที่แอร์ก็เปิด

            “เอาจริงกูไม่เห็นนะเว้ย เห็นพวกมึงวิ่งกูก็วิ่งด้วย คิดไปเองหรือเปล่าวะ มองดูดีหรือยัง…เอาไง ให้กูออกไปดูให้แน่ใจก่อนดีไหม ไม่ใช่พวกมึงมโนเพราะกินเข้าไปเยอะ เมากันหรือเปล่า”

            “ไอ้เค มึงอย่าซ่า กูเห็นจริงๆ เห็นตามันแดงๆ ด้วย คอยาวเล็กๆ หัวโต มือมันบานใหญ่เหมือนใบมะพร้าว ไม่ใช่สิ ที่เขาบอกว่าใบลาน ใช่ๆ ใช่เลย”

            เคส่ายหน้าทำท่าไม่เชื่อ มันจะเปิดประตูออกไปพิสูจน์ พวกเราต้องช่วยกันกระชากลากไม่ให้ออกไป “เอางี้ บีมึงออกไปกะกู ถ้าเจอก็เจอ ถ้าไม่เจอจะได้ออกไปนั่งกินต่อ…จะได้รู้ว่าพวกมึงเมาตาฝาดหรือเปล่าที่เห็นเปรต”

            “โอ๊ยท่านพี่เค….พิสูจน์เพื่อ…เราเห็นกันตั้งหลายคน”

            “แล้วบีมึงเห็นป่ะ…ไม่เห็น…นั่นไงแหกตา ไม่ใช่กูท้าทายนะโว้ย ถ้ามันไม่มี เป็นแค่ต้นไม้แล้วมึงมโนนี่จบเลยนะ เอาไง พวกเราจะได้ไม่จิตตก มาเที่ยวทั้งทีเสือกมาเจอผีเปรต”

            “ตามใจมึง…แต่กูไม่ไป” ฉันโพล่งขึ้นมา ทุกคนเงียบกริบ ไอ้เคถอดกลอนเปิดประตู แล้วมันออกไปยืนที่หน้าห้อง หันหน้าให้พวกเราที่ยืนจับกลุ่มอยู่ในห้อง มันแหงนมองไปบนหลังคา ดูจากอาการแล้วมันไม่พบเจออะไร…แต่สิ่งที่อยู่ด้านหลังมันซึ่งอยู่ด้านหน้าเราทั้งหมดเป็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดพลิ้วๆ ยืนอยู่บนกิ่งไม้…ภาพมันชัดมาก เพราะหน้าที่พักมีไฟเปิดอยู่ ถึงไม่ส่องไปถึงยอดไม้แต่ก็รู้ว่ามันคืออะไร…พวกเราร้องเสียงหลง

             “ผะ ผะ….ผีข้างหลังมึง ไอ้เค…เข้ามาเร็ว….นั่นไง” เคหันขวับไปมอง มันเหมือนตะลึงไปชั่วครู่ ขณะที่พวกเราส่งเสียงร้องเรียก ไอ้เคมันยืนนิ่ง ฉันเห็นโอเข้าไปกระชากแขนมันเข้ามาแล้วรีบปิดประตู

             “จริงเหรอวะเนี่ย..” เคพึมพำ คราวนี้ไม่พูดพล่ามกันละ พวกเราทรุดตัวลงนั่งอยู่กลางห้อง หวาดระแวงทุกเสียงที่ได้ยินจากด้านนอก ดีนะหน้าต่างทุกบานเป็นกระจก แต่พวกเราปิดม่านไว้ก่อนแล้ว ไม่งั้นอาจจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นที่ด้านนอกนั่นก็ได้ เรานั่งกันเงียบกริบอยู่กลางห้อง ค่อยๆ ไปคว้าผ้าห่มบ้างหมอนบ้างเอามากอด

            มีเสียงเหมือนของแหลมขูดบนหลังคาบ้าง ข้างฝาบ้าง พวกเราแทบจะกอดกัน ฉันพยายามสวดมนต์เท่าที่จะนึกได้ แล้วก็มีเสียงจานชามด้านนอกกระทบกัน เสียงมีคนหลายคนกำลังกินสิ่งของบนโต๊ะที่พวกเรายังกินกันไม่หมด ทีแรกฉันก็คิดว่าหมา ใจหนึ่งก็อยากแอบดู ถ้าเป็นหมาก็อาจจะโล่ง แต่นังจ๋ามันย่องไปแง้มม่านดูแล้วมันก็วิ่งตาลีตาเหลือกมาที่กลุ่ม

             “ฉิบ…กูฉี่จะราด ตัวอะไรไม่รู้มันมารุมกินของบนโต๊ะว่ะ หมาก็ไม่ใช่ลิงก็ไม่เชิง แต่มันมีผมหรือขนอะไรไม่รู้กระเซิงๆ…”

            กลัวก็กลัว อยากรู้ก็อยากรู้ ฉันกับตูนมองหน้ากัน ค่อยๆ คลานไปแง้มผ้าม่าน แล้วก็ต้องหงายท้องรีบคลานกลับมา ไอ้สิ่งที่มันกำลังกินของบนโต๊ะไม่ใช่ลิง ไม่ใช่หมา…แต่เป็นเหมือนคนที่เนื้อตัวดำเหมือนถ่าน ตาเป็นสีแดง เอาของใส่ปากเสียงกินจุ๊บจั๊บๆ พอเราแง้มมันหันขวับมามองทันที กลัวสุดจะบรรยาย อะไรกันวะนี่…ไม่มีใครพูด ไม่มีใครถามอะไรกัน ทุกคนเกาะกันเป็นกลุ่มอยู่กลางห้อง ต่างจ้องมองประตูบ้างหน้าต่างบ้าง กลัวว่ามันจะเข้ามาได้

            เราสองสามคนสวดมนต์กันเบาๆ เท่าที่จะนึกออก ฉันกำหลวงปู่ทวดที่ห้อยคอขอให้ท่านช่วยคุ้มครอง ใครมีสร้อยพระก็หยิบออกมา ไม่มีใครกล้านอนหลับ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า…เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ตีสาม…เพื่อนบางคนไม่ไหวก็นอนขดตัวหลับอยู่ข้างๆ กัน..จนกระทั่งแสงจากพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นที่ขอบฟ้า พวกเราปลอดภัยแล้ว ช่วยกันเก็บเสื้อผ้าข้าวของอย่างลวกๆ รอจนแน่ใจว่าสว่างเต็มที่ ไม่มีใครพูดอะไร ค่อยๆ เปิดประตูออกมาเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดบนโต๊ะอาหาร ไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว เก็บทุกอย่างทิ้งลงถุงขยะ ทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว

            “เราคงไม่รอป้าของอ๋อย ไม่รู้ว่าจะมากี่โมง หนิงโทรติดต่ออ๋อยว่าเราจะโอนค่าที่พักให้ กับค่าทำความสะอาด ไปกันเถอะ อยู่ไม่ไหวแล้ว”

            แล้วรถเราสองคันก็ออกจากที่นั่นประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ ระหว่างทางพอผ่านวัด เราพร้อมใจกันแวะเข้าไปทำบุญทันที ซึ่งพระท่านก็ถามว่าพวกเราจะไปไหนกันแต่เช้า เราช่วยกันเล่าเรื่องที่เจอมาให้พระท่านฟัง ท่านพูดว่า “ก็พวกโยมจุดธูปแล้วไปปักมุมละดอก พวกวิญญาณสัมภเวสีผีเปรตเขาก็คิดว่าเรียกเขามากินเครื่องเซ่น พวกนี้เขาอดอยากอยู่แล้ว พอมีคนเรียกก็มา”

            “แต่เราไม่ได้อธิษฐานเรียกนะคะ”

            “ก็นั่นแหละ…มาๆ รดน้ำมนต์กันสักหน่อย แล้วทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา เขาคงไม่ได้ตั้งใจหลอกพวกโยมแ ต่เขามากินตามคำเชิญนั่นแหละ”

            ซึ่งที่วัดกำลังมีการก่อสร้าง พวกเราก็เลยร่วมบุญคนละเล็กละน้อย แถมมีลอตเตอรี่ที่ทางวัดมีขาย แบบซื้อแล้วได้ร่วมบุญด้วย พวกเราก็รวมเงินกันซื้อสองใบ กะว่าได้ช่วยทำบุญอีกทางหนึ่ง ทางวัดก็อวยพรให้เราเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพพร้อมโชคลาภ…ซึ่งพวกเราก็บอกว่าถ้าถูกรางวัลเยอะจะกลับมาทำบุญที่นี่อีกครั้ง หลังจากนั้นอีกเกือบสิบวันก็หวยออก ลอตเตอรี่ของพวกเราถูกรางวัลที่ห้าถึงสองใบ เราก็นัดกันว่าจะมาทำบุญที่วัดนี้อีกครั้ง

            ฉันกับเพื่อนๆ คิดว่าอาถรรพณ์ของธูปดอกเดียวที่เรียกวิญญาณพวกนั้นมากินก็มีส่วนให้เราได้แวะมาที่วัดนี้ ได้ทำบุญได้ซื้อลอตเตอรี่ อาจจะเป็นเพราะพวกวิญญาณเหล่านั้นอยากตอบแทนพวกเราก็ได้ เพราะคงอดอยาก อย่างไรก็ตาม เราก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขาได้ไปสู่สุคติด้วยค่ะ

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เรื่องโดย. กฤตยา อยู่ประเสริฐ

ภาพโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •