30 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

          ชื่อเรื่อง “ปริศนาคนไร้ร่าง” แบบนี้ท่านผู้อ่านคงสงสัยกันแน่ คนจะไร้ร่างได้อย่างไร จะมีก็แต่คนตายแล้วเท่านั้น ในหลายประเทศและหลายช่วงเวลาถึงปัจจุบันเคยมีการพบเห็นมาแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน จึงทำให้ไม่เป็นที่สนใจเพราะขาดความน่าเชื่อถือ เช่นนั้นเราไปดูกันดีกว่า

          คนเงา

          ไม่รู้ว่าคนเงาที่จะเล่านี้เป็นต้นแบบหรือไอดอลของผู้กำกับไลต์เอาต์หรือเปล่านะ หนังแนวสยองขวัญแบบพอปิดไฟมันก็โผล่มา พอเปิดไฟมันก็หาย เหมือนเป็นเงา แถมสามารถฆ่าคนได้อีกด้วย พอดูจบแล้วต้องเปิดไฟนอนกันเลยทีเดียว หนังพวกนี้คนดูไม่เชื่อหรอกว่ามีจริง หรือน่าจะเป็นพวกผีวิญญาณเสียมากกว่า

            อะ อ๊ะ…อย่าลบหลู่เชียว!! เพราะคนเงานั้นมีตัวตนให้เห็นจริง ผู้ที่พบเห็นบอกเล่าถึงรูปร่างลักษณะเอาไว้ว่า มีเค้าโครงรูปร่างเคลื่อนไหวได้เหมือนคนเราดีๆ นี่แหละ แค่มันไม่มีร่างกายที่เห็นเป็นกายเนื้อ หรือกายหยาบแบบมนุษย์ทั่วไป

            ผู้เห็นเล่าว่า ได้เห็นมันกำลังเคลื่อนไหว ทั้งๆ ที่ในบริเวณนั้นไม่มีคนอยู่สักคน ผู้ที่เห็นก็ตะลึง ถ้ากินเหล้ามาก็คิดว่าภาพหลอน หรือถ้าเพิ่งดูหนังแนวไซไฟหรือหนังผีจบออกมาแล้วเจอ ชัดเลย ภาพในหนังคงติดตามาด้วย

            ที่ว่าเห็นเป็นเค้าเรือนร่างคนนั้น คนที่เห็นก็อธิบายภาพว่า เห็นเหมือนเงามืดโปร่งใส ไม่มีใบหน้า ตา หู จมูก!!

          น่าจะคล้ายภาพเคลื่อนไหว 3 มิติหรือ 3D มันสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เพราะคิดว่าคงไม่มีคนเห็น แต่พอมีคนเห็นมัน หรือมันรู้ว่ามีคนเห็นเข้าให้แล้ว มันจะหายไปทันที หายวับไปเหมือนผี?

            แต่ว่าไอ้ตัวนี้มันไม่เหมือนผี? คลับคล้ายภาพยนตร์ที่นักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองแล้วผิดพลาดทำให้ร่างหายเหมือนจะล่องหนได้ ที่แสบก็คือคนเงาดังกล่าวมันน่ากลัวใช่น้อย

            จากรายงานที่เข้ามาได้แจ้งว่า คนเงาที่เราไม่อาจเห็นหน้าตาได้นั้น มันเคยพุ่งเข้าทำร้ายคน ตัวมันสูงใหญ่กว่าคนทั่วไป บางคนแจ้งว่าถูกมันไล่ล่าตามฆ่าอีกด้วย??!!!

          แจ้งความก็ไม่มีพยานหลักฐาน นอกจากร่องรอยที่ถูกมันทำร้าย แต่กลับถูกหาว่าทำร้ายตัวเองหรือเปล่า ประสาทหลอนมั้ง หรือเป็นภาพลวงตา จากอาการหลับตื่น Hypnagogoia คือบุคคลนั้นอยู่ในสภาพตื่น ทำให้มีจินตนาการเหมือนฝัน ภาพที่เห็นจึงเป็นเงาเคลื่อนไหว ไม่มีใบหน้า

            เรื่องเล่าลือของคนเงามีให้เห็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่รู้ว่าควรเห็นใจใครดี ถ้าคนเงาดังกล่าวไม่อาจมีกายเนื้อได้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากวิญญาณ ปีศาจ อีกทั้งไม่อาจอยู่ในสังคมกับคนได้จริงจัง

            แต่เชื่อว่าสักวันเราคงได้รับคำอธิบายและเหตุผลว่า…แท้จริงแล้วคนเงาเกิดขึ้นจากอะไร?

            เหมือนดังเรื่องต่อไปนี้ ในยุคที่มีวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นแล้ว แต่ก่อนหน้าศตวรรษที่ 15 แม้จะมีวิทยาการวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นแต่ก็ไม่บูม ผู้คนเชื่อไสยศาสตร์พ่อมดหมอผีมากกว่า แต่มาได้เหตุผลของสาเหตุที่เกิดเรื่องนั้นก็อยู่ในยุคเราๆ นี่เข้าแล้ว เรื่องราวนั้นจึงถูกนำไปทำหนัง ดาบทะลุคนไฟ เขามีเหตุผลที่ไฟลุกท่วมตัวด้วยนะ

            แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงและเหตุการณ์จริงคงไม่สนุกแน่ เช่นนั้นเรามาดูเรื่องจริงคนจริงที่มีร่างแต่ต้องไร้ร่างไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และไม่มีโอกาสสั่งเสียด้วยละกัน

            เพลิงไฟมรณะ

            หากเรากำลังคุยอยู่ดีๆ แล้วเพื่อนที่คุยด้วยเกิดไฟลุกพึ่บหายไปทั้งร่าง ทิ้งไว้แต่เสื้อผ้าที่ไม่ไหม้ เราจะทำอย่างไร?

            เหตุการณ์คนไฟลุกเกิดขึ้นมาแล้วและเป็นเรื่องจริงเสียด้วย คนที่มีไฟลุกท่วมตัวจนเสียชีวิต ครั้งแรกที่เป็นข่าวอยู่ในปี ค.ศ. 1663 เรื่องนี้เกิดมานานราว 355 ปีก่อน

            นายโทมัส มาตินได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่มีสตรีฝรั่งเศสคนหนึ่งกลายเป็นเถ้าและควันไปในขณะที่เธอหลับอยู่ คนที่ฟังคงไม่มีคนเชื่อแน่ ยิ่งยุคนั้นสื่อและเทคโนโลยียังไม่ล้ำทันสมัยเท่าปัจจุบันด้วยแล้ว ก็หาว่าหลอก หรืออำพรางคดีแน่ๆ

            ต่อมาได้มีการรวบรวมสืบหาหลักฐาน ข้อมูลในกรณีที่คนเกิดไฟลุกไหม้ตัวนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนประสบถึง100 ราย แล้วนำออกตีพิมพ์เมื่อปี 1976 เขาได้กล่าวว่า สิ่งที่เกิดคือปรากฏการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมจึงเกิดขึ้น จู่ๆ คนบางคนถูกไฟไหม้ลุกทั่วร่าง!! แต่เมื่อไปดูก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้ เรื่องจึงเงียบไปก่อน…

            100 รายที่ประสบเหตุจะมีรูปแบบที่คล้ายๆ กันคือ ร่างกายของพวกเขาถูกเผาไหม้หมด จนเกือบจะเป็นเถ้าถ่าน ที่เกิดเหตุมักอยู่ในบ้าน แถมยังได้กลิ่นควันไฟในห้องด้วย ถ้าคนเชื่อไสยศาสตร์ก็ต้องหาว่าถูกคุณไสยมนต์ดำ

            บางส่วนของร่างกายจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านจนหมด แต่ส่วนอื่นๆ กลับอยู่ปกติไม่เกิดไฟไหม้ด้วย เสื้อผ้ากลับไม่ไหม้ เช่น ถ้าสวมยกทรงอยู่เกิดไฟไหม้ที่หน้าอก เสื้อผ้ากลับไม่ไหม้หรือติดไฟเลย? ถึงว่ามันแปล๊กแปลก ไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายเสียด้วย??

          นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องออกโรงหาเหตุผล เขาว่าเป็นการสันดาปของมนุษย์อย่างฉับพลัน ทำให้เกิดไฟไหม้อย่างเฉียบพลัน สาเหตุที่เกิดมีด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งก็ไม่อาจอธิบายได้ชัดเจนอยู่ดีว่าเพราะอะไร

            บอกว่า ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าจัดเป็นแอลกอฮอล์ริซึม พอเกิดการสันดาป ไฟก็จะลุกไหม้อย่างง่ายดาย ส่วนมากที่เสียชีวิตเพราะไฟลุกพึ่บพั่บนั้น เป็นจริงแค่ไหนเรามาดูกันต่อค่ะ

            แต่…คนที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่และร่างไหม้อันตรธานหายไปล่ะคืออะไร…??

            ปี ค.ศ. 1938 ฟิลลิส นิวคอมบ์ หญิงสาวชาวอังกฤษ อายุ 22 ปี นางกำลังปลีกตัวออกจากงานเต้นรำ ขณะก้าวลงบันไดอยู่นั้น จู่ๆ เสื้อผ้าเธอก็ติดไฟโดยไร้สาเหตุ ด้วยความตกใจเธอก็วิ่งย้อนกลับไปยังห้องบอลลูมเพื่อขอความช่วยเหลือ

            เธอล้มลง หลายคนพยายามเข้าไปช่วย แต่…เธอก็สิ้นใจที่โรงพยาบาล บ้างก็ว่าน่าจะเกิดจากบุหรี่หรือไม้ขีดไฟที่โยนขึ้นไปหาเธอขณะที่เธอลงจากบันได แต่ไม่พบหลักฐานยืนยันได้

            ต่อมา เกิดกับนางยูฟีเมีย จอห์นสัน วัย 68 ปี สาวเมืองผู้ดีอังกฤษเหมือนกัน เธอกำลังชงชาดื่มอยู่ก็เกิดไฟลุกท่วมร่างอย่างรุนแรงและรวดเร็วมาก เพียงครู่เดียวร่างก็กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่เสื้อผ้าเธอกลับไม่มีรอยไหม้เลย!!

          สตรีรายต่อมาคือแอนนา มาร์ตินเธอเป็นชาวเมืองเวสต์ ฟิลาเดลเฟีย อายุ 69 ปี เธอถูกไฟไหม้ในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1957 มันแปลกประหลาดตรงที่ไฟไหม้เฉพาะแขนทั้งสองข้างและศีรษะเท่านั้น โดยไม่ไหม้บริเวณลำตัว และรองเท้า ทิ้งหลักฐานจากการไหม้ไว้ให้ปวดหัว…

            ยิ่งเป็นรายของท่านเคาน์เตส คอร์นีเลีย ดิ แบนดิ แห่งซิเซนา อิตาลี ถูกไฟไหม้เสียชีวิตในศตวรรษที่ 18 รายงานแจ้งว่าตอนเกิดเหตุ สุภาพสตรีสูงศักดิ์วัย 62 ปี และบรรดาเพื่อนบ้านเห็นควันสีเหลืองลอยจากห้องท่าน แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรมาก จนรุ่งเช้าถึงได้ช็อกทั้งบ้าน เมื่อสาวใช้เข้าไปพบกองขี้เถ้ากองหนึ่ง

            มันห่างจากเก้าอี้ตัวโปรดของท่านไม่ไกลนัก แถมยังทิ้งขาที่สวมใส่ถุงเท้าไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย เฟอร์นิเจอร์และพื้นห้องก็ไม่มีรอยไหม้แม้แต่น้อย มันเกิดอะไรขึ้น

            ภายในห้องอบอวลไปด้วยเขม่า มีเทียนสองเล่มวางบนโต๊ะข้างเตียง แสดงให้เห็นว่าภายในห้องเคยเกิดความร้อนแรงมากพอที่จะหลอมละลายเนื้อเทียน ส่วนไส้เทียนยังไม่ได้จุดเลย แสดงว่าไฟไม่ได้มาจากเทียน แล้วไฟที่เผาผลาญท่านเคาน์เตสมาจากหนใด?

            มิสเตอร์ เอช.เป็นศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแนชวิลล์ มลรัฐเทนเนสซี เขารอดตายเพราะสติ ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองว่า เมื่อปี ค.ศ. 1835 ในฤดูหนาว ขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้านก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่ขาขวา ทันใดนั้นเอง เขาเห็นไฟพุ่งออกจากขาตรงที่เจ็บปวดแปลบนั้น

            เขาเอามือตบๆ ไฟที่ลุกให้ดับ แต่ไฟก็ไม่ดับ ยังคงลุกไหม้อยู่ เขาจึงเปลี่ยนเป็นเอามือประกบปิดเพื่อไม่ให้มีออกซิเจนเผาไหม้ได้ ไฟได้ดับลง

            เรื่องแปลกก็คือ กางเกงในของเขาถูกไฟไหม้เป็นรูเล็กๆ กางเกงขายาวที่ใส่กลับไม่มีรอยไหม้ ขาเกิดบาดแผลจนต้องรักษาอยู่นานกว่าจะหาย แล้วไม่เห็นบอกเลยว่ามือที่ปิดกันออกซิเจนไหม้ไหม?

            หนุ่มรายต่อมา ชื่อบิลลี โธมัส ปีเตอร์สัน อายุ 27 ปี อยู่ที่รัฐมิชิแกน อยู่ดีๆ ก็ถูกไฟไหม้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1957 ไหม้ที่แขนซ้าย อวัยวะเพศ และบางส่วนบนใบหน้า แต่…แปลก มีส่วนยกเว้นที่ไม่ไหม้เหลือไว้อีก นั่นก็คือขนตามร่างกาย ขนคิ้ว ผม และเสื้อผ้า

            5 ธันวาคม ค.ศ.1966 ที่รัฐเพนซิลวาเนีย เมืองเคาวเดอร์สปอร์ท นายกอสเนลไปที่บ้านของอดีตหมอ จอห์น เออร์วิ่ง เบนทเลย์ เพื่อนสนิทวัย 92 ปี เพื่อช่วยดูมิเตอร์แก๊สแทนเจ้าของบ้านที่เดินไม่ค่อยไหว

            เขาพบว่าบันไดลงไปห้องใต้ดินมีควันดำสีออกน้ำเงินลอยคลุ้ง มีกลิ่นเหม็นฉุนอบอวลไปหมด ความสงสัยเขาจึงเข้าไปยังห้องซึ่งเป็นที่มาของควัน

            แทบผงะ เมื่อต้องพบกับภาพสยดสยอง จำติดตา คือขาของเบนทเลย์ได้กลายเป็นสีคล้ำตกอยู่ ส่วนอื่นๆ ของร่างกายกลายเป็นเถ้าถ่านกองอยู่ในห้องใต้ดิน ใกล้กับรูขนาดกว้าง75 ซม.ยาว 120 ซม. มีส่วนกะโหลกและชุดใส่ตอนอาบน้ำที่ติดไฟง่ายอยู่ด้วย

            พอสรุปจากพฤติกรรมได้ว่า คุณตาเบนทเลย์นั้นชอบสูบไปป์ และมักทำขี้เถ้าตกใส่เสื้อบ่อยๆ ในวันเกิดเหตุก็มีการพบขี้เถ้าตกอยู่บนพรมห้องนอนของแกด้วย จึงเป็นการยืนยันว่า เบนทเลย์กำลังสูบไปป์อยู่ ไม่มีเหตุผลและคำตอบที่พิสูจน์ได้เหมือนเคสก่อนหน้า จึงเหมาไปที่ไปป์แทนแล้วเสื้อที่ไม่ไหม้ไฟกับรูใหญ่นั่นคืออะไร?

            ถ้าจะไร้ร่างและต้องตายอย่างน่าสมเพชเช่นนี้ ขอเป็นเพียงมนุษย์เงาน่าจะดีกว่ากระมัง?

เรื่องโดย กัญญ์

ภาพโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •