27 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ผมไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ รพ.กลาง ห้องผู้ป่วยหญิง ท่านเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ตอนสาวๆ ท่านบริจาคร่างกายให้ รพ.แห่งหนึ่งไว้ แต่พอติดต่อไป ทาง รพ.นั้นแจ้งว่าถ้าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทาง รพ.ไม่สามารถรับร่างไว้ ซึ่งผมก็เพิ่งได้รู้ขั้นตอนเหล่านี้

ส่วนญาติผมนั้นมีสิทธิ์บัตรทองที่ รพ.กลางจึงรักษาตัวที่นี่ ห้องรวมที่ท่านอยู่มีประมาณ 30 เตียง เห็นเหล่าพยาบาลทำงานแล้วรู้สึกเห็นใจเพราะต้องดูแลคนไข้ทุกเตียงทุกวัน ทั้งคนไข้ที่ช่วยตัวเองได้บ้าง ติดเตียงบ้าง เท่าที่ไปเห็นมาคนไข้จะอยู่ไม่ประจำเตียง จะย้ายไปเรื่อยๆ ตามอาการหนักเบา

ผมไปเยี่ยมญาติได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง วันนั้นผมสังเกตเตียงที่เยื้องๆ กับญาติของผม รู้สึกว่าคนไข้นั้นหน้าตาคุ้นๆ เหมือนคนรู้จัก เป็นผู้ป่วยติดเตียงนอนนิ่งอยู่ พูดไม่ได้ กลอกตาไปมา ให้อาหารทางสายยาง ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูชื่อ อ้าว พี่ติ๋มนี่เอง ไม่พบกันนานมากจนจำแทบไม่ได้

ลองถามพยาบาลว่าพี่ติ๋มแกไปไงมาไง พยาบาลบอกว่ามีคนพาขึ้นรถสามล้อมาส่ง แล้วบอกว่าแกมีสิทธิ์รักษาอยู่ที่นี่ พอ พนง.เวรเปลรับตัวไว้ คนมาส่งบอกไม่ได้เป็นญาติกัน แล้วก็หายตัวไปเลย ผมก็ได้แต่รับฟัง

วันรุ่งขึ้นผมหาเวลาว่างไปยังชุมชนข้างวัดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของพี่ติ๋ม อ้อ พี่ติ๋มแกเป็นสาวแก่ ไม่มีญาติ อยู่ตัวคนเดียว ไปเจอกับป้าชูคนเก่าคนแก่ของที่นั่นจึงสอบถามว่ารู้เรื่องพี่ติ๋มไหม ผมไปพบที่โรงพยาบาลไม่มีใครไปดูแลเลย ป้าชูบอก “รู้สิ วันเกิดเหตุป้าก็อยู่”

แกเล่าว่าวันนั้น หลวงพี่เลขาเจ้าอาวาสได้เดินมาแจ้งกับชาวบ้านที่อาศัยขายของหรือวางของระเกะระกะข้างรั้วกำแพงว่าเดือนหน้าวัดจะมีงานประจำปี ขอความร่วมมือให้หยุดขายและย้ายสิ่งของออกเพื่อความสะอาดเรียบร้อย ขอเพียง 10 วัน

พอไปถึงพี่ติ๋มแกไม่ยอม โวยวายว่า “หยุด 10 วันแล้วจะเอาอะไรกิน มีใครหาให้กินไหม ขายอยู่ก็ไม่ได้หนักหัวใคร” ซึ่งแกขายอาหารพวกของทอดและยำต่างๆ ท่านเลขาจึงบอกว่า “โยม ทางวัดขอความร่วมมือดีๆ อย่าให้ต้องแจ้งเทศกิจเข้ามาจัดระเบียบเลย บางทีอาจหยุดถาวรเลยนะ” พี่ติ๋มจึงตอบว่า “เออ ลองมายุ่งกับกูสิ ไม่ว่าใคร หัวเหลืองหัวล้านกูจะฟันกบาลให้ดู” ท่านเลขาอึ้งแล้วหันหลังเดินกลับไป

พี่ติ๋มยังไม่หายโมโห เดินเข้าบ้านไปหยิบธูปมากำหนึ่ง จุดขึ้นแล้วยกมือสาธุ ทั้งแช่งทั้งด่าพระเลขา เสร็จแล้วก็ปักธูปที่กระถางต้นไม้ใกล้ร้านแก

พอตอนเย็นขายของเสร็จ แกก็ล้างถ้วย จาน กระทะ อุปกรณ์การขาย เสร็จแล้วก็สาดน้ำลงบนพื้นถนนหน้าร้านแกนั่นแหละ หลังจากนั้นแกก็จะเดินไปพับโต๊ะวางของ พอแกเหยียบพื้นที่แกสาดน้ำไว้ แกก็ลื่นหงายท้องหัวฟาดเข้ากับฟุตพาทจากน้ำที่มีความลื่นทั้งน้ำยาล้างจานและคราบของน้ำมัน

แกนอนนิ่งเงียบจนชาวบ้านเข้ามาช่วย เห็นแกนิ่งไม่ได้สติ อาการไม่ดี เลยเอาแกขึ้นรถสามล้อมาส่งที่ รพ. แกอยู่ รพ.ได้เดือนกว่าๆ ก็สิ้นลม

ตั้งแต่วันที่แกจุดธูปแช่งด่าพระแล้ว แกก็ไม่มีโอกาสได้พูดอีกเลย พวกเราทุกคนยังมีชีวิตอยู่นี้ ทราบไว้เถิดครับ พระท่านถือศีลมากกว่าเรา ถ้าพระองค์นั้นไม่ได้มีความผิด หรือท่านทำตามหน้าที่อันถูกต้องแล้ว มิบังควรที่ใครจะไปด่าหรือแช่งท่าน ยิ่งพี่ติ๋มถึงขั้นจุดธูปเลย ความวิบัติหรือโชคร้ายอาจบังเกิดกับตัวผู้แช่งได้ ดังเรื่องที่ผมได้เล่ามานี้

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เรื่องโดย. ชาตรี จตุจักร / กทม.

ภาพโดย. www.kcpinternational.com, cheezburger.com


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •