27 กรกฎาคม 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

“ล้มลุกได้ แต่อย่าปล่อยให้ล้มเหลว”

พืชผักหญ้า มีค่าแท้แก่ชีวิต

กินเป็นนิจ คุณค่ามหาศาล

สมุนไพร ใช้มา เวลานาน

ตลอดกาล ถึงวันนี้ก็มีคุณ!

สมอไทย หรือตามที่หมอแผนโบราณเรียกว่า สมออัพยา เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง จนถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ ๒๐ ถึง ๓๐ เมตร และกว้าง ๑.๕ ถึง ๑๒ ฟุต เป็นไม้ใบเดี่ยวเรียงสลับกันไปตามข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน หรือสอบ ขอบใบเรียบ พื้นใบเป็นสีเขียว ใบยาวประมาณ ๒.๕ ถึง ๖ นิ้ว มีก้านใบยาว

สมอไทย ออกดอกเป็นช่อใหญ่ ขนาดของดอกนั้นจะเล็ก ช่อหนึ่งๆ มีดอกอยู่จำนวนมาก สีนวล มีกลิ่นหอม ผลเป็นลูกกลมๆ คล้ายรูปไข่ ยาวประมาณ ๐.๘ นิ้ว สีเขียวอมเหลือง บางทีก็มีสีแดงปน ภายในผลมีเมล็ดแข็ง และมีอยู่เพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น

สมอไทย เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย และมีความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการตอน และเพาะเมล็ด ส่วนที่ใช้คือทั้งต้น ดอก ผล เปลือกและเนื้อหุ้มเมล็ด เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณดังนี้

ทั้งต้น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการเสียวคอและเสียวหน้าอก แก้ท้องผูก ใช้เป็นยาสมาน

ดอก เป็นยารักษาโรคบิด

ผล ใช้ทาภายนอก บดให้ละเอียด โรยแผลเรื้อรัง ถ้าเป็นผลอ่อน เป็นยาระบาย และผลแก่จะมีรสฝาด เป็นยาสมาน ยาระบาย รู้จักปิดเอง (ถ่ายพอสมควร) แก้ลม จุกเสียด เป็นยาเจริญอาหาร หรือเป็นยาบำรุง อมกลั้วคอเจ็บคอ ขับน้ำเหลืองเสีย

เปลือก เป็นยาบำรุงหัวใจ ขับน้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ

เนื้อหุ้มเมล็ด แก้บิด แก้ท้องผูก แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ รักษาโรคเกี่ยวกับน้ำดี แก้โรคท้องมาน แก้โรคตับ ม้าม ไต แก้อาเจียน แก้สะอึก โรคหืด และแก้ท้องร่วงเรื้อรัง

สมอไทย

ใช้ทำเป็นยาระบาย แก้ท้องผูก โดยนำผลมา ๗ ผล แกะเอาแต่เนื้อ ต้มกับน้ำ ๑ แก้วใหญ่ ใส่เกลือเพียงเล็กน้อย เคี่ยวให้งวดลง น้ำเหลือเพียงครึ่งแก้ว รับประทานครั้งเดียวให้หมด ใช้เวลาประมาณ ๑ หรือ ๒ ชั่วโมง จะระบายถ่ายออกมา ท้องไม่ผูก สบายหายอึดอัดได้แน่นอนสมใจนึก ใช้เป็น ย่อมเห็นประโยชน์! ดังกล่าวมาฉะนี้แล…!!

สมอไทย

ใช้เป็นอาหาร โดยใช้ผลห่าม (ยังไม่สุก) รับประทานเป็นผักแกล้มกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกตาแดง หรือแกงคั่ว และผัดกับหมู อร่อยอีกแบบหนึ่ง ตามที่ชนบทนิยมรับประทานกันจนถึงทุกวันนี้

สมอไทยใช้ดี เป็นทั้งยาและอาหารในเวลาเดียวกัน นำไปใช้เถิดเกิดประโยชน์จริงดังกล่าวมาทุกประการแล…

เรื่องโดย. น.ท.มงคล ทัศมาลี

ภาพโดย. www.istockphoto.com, www.homeppt.com, www.amazon.in


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง