ลมพิษ…

แชร์เรื่องนี้:

...ลมพิษ มักจะเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด มีอาการผื่นบวมบนผิวหนัง ขนาดอาจแตกต่างกันไป จาก ๓ นิ้ว หรือโตกว่าก็ได้ สีซีดในตอนแรก และต่อไปจะเข้มขึ้นเป็นสีชมพูหรือสีแดง บางคนคันมากทนไม่ไหวอยากจะเกาอยู่ตลอดเวลา

…ลมพิษ ต้นเหตุเกิดจากพิษภายในบางอย่างของร่างกาย หรือพิษจากภายนอก เรียกว่าอาการแพ้ และพิษที่แพ้นี้จะไม่เหมือนกันทุกคน บางคนแพ้แต่บางคนก็ไม่แพ้ ต้นเหตุที่พบเสมอๆ คือจากอาการบางชนิดที่ทำให้เกิดลมพิษได้ง่ายๆ เช่น แมลงกัด แพ้สารเคมีบางอย่าง ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ฟางข้าว อาหาร ยา นุ่น ฝ้าย เสื้อผ้าบางชนิด เป็นต้น

…ลมพิษในรายที่เป็นไม่รุนแรง อาจหายได้ภายใน ๒ – ๕ นาที หรือ ๒ – ๓ ชั่วโมงก็หายได้โดยที่ไม่เหลือร่องรอยอยู่เลย แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นใหม่ได้อีก การเกาจะช่วยได้ขณะหนึ่งให้หายคัน แต่ส่วนมากจะทำให้เป็นนานขึ้น และทำให้เกิดรอยใหม่ขึ้นอีกมากกว่าเดิม

** วิธีป้องกันการเป็นลมพิษ คือ

๑. รู้ว่าแพ้อะไรอยู่ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น

๒. เมื่อเป็นลมพิษแล้ว ต้องหาวิธีเอาสารแพ้นั้นออกจากร่างกายโดยไม่ทำให้เกิดโทษต่ออวัยวะส่วนอื่น (เช่น ทำให้อาเจียน อ้วกออก ถอดเสื้อผ้าตัวที่แพ้ออก เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนหมอนหนุนหรือออกจากที่นั้นๆ

๓. ปรับปรุงร่างกายให้มีภูมิต้านทานสูงขึ้น เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่เป็นพืชผัก ผลไม้ สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และที่ช่วยล้างพิษตกค้างในร่างกายได้ เป็นต้นว่า ตำลึง ฟักแฟง น้ำเต้า มะเขือเทศ เมล็ดแมงลัก ส้ม ฯลฯ เป็นต้น

**วิธีแก้ลมพิษตามแนวแพทย์แผนโบราณ คือ

๑. ใช้ใบพลูโขลกกับเหล้าขาวชโลมหรือทาบริเวณที่เป็นลมพิษให้ทั่ว

๒. ถ้าวิธีแรกยังไม่ได้ผล ให้ใช้ข่าหั่นเป็นแว่นๆ โขลกกับเหล้าขาว ทาและชโลมแทนต่อจากใบพลู

๓. ถ้าทั้ง ๒ อย่างดังที่ใช้มายังไม่ได้ผล ให้ใช้เปลือกส้มโอหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาด ๑ นิ้ว ต้มน้ำให้เดือด อาบขณะที่น้ำยังอุ่นๆ อยู่ ถ้า ๓ วิธีดังกล่าวมายังไม่ได้ผล ต้องปรึกษาหมอแผนโบราณใช้ยารับประทานขนานอื่นๆ รักษาต่อไป