14 พฤศจิกายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

            เรื่องคำสาปแช่งพวกนี้ ไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่เขาทีเดียว เดี๋ยวงานเข้าจะเหนื่อยใจ เพราะของพวกนี้เราไม่อาจมองเห็นได้ ขนาดฝรั่งหัววิทยาศาสตร์ที่ไม่ค่อยเชื่อ จิตแข็ง ยังเจอจัดหนักและจัดเต็มกันไปแล้ว

            คราวนี้เรามาดูว่ามีเรื่องอะไรอีกที่เข้าข่ายอาถรรพณ์ทันสมัยตลอดกาล มีอยู่เรื่องหนึ่งแม้ในปัจจุบันก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เช่นนั้นเรามาไขปริศนาตามไปดูกันค่ะ

          คำสาปภาพวาดเด็กร้องไห้ The Crying Boy

            เป็นภาพวาดชุดเด็กชายร้องไห้ เหตุเกิดที่ประเทศอังกฤษ เรื่องนี้ถือเป็นตำนานแห่งชาติทีเดียว คนที่นั่นมีความเชื่อว่าหากบ้านใดมีรูปชุดเด็กชายที่วาดโดย จี บราโกลิน จิตรกรชาวสเปน แขวนอยู่ที่บ้านละก็ บ้านนั้นจะมีแต่ความโชคร้าย ไฟไหม้ แม้จะเป็นของก๊อบปี้ก็ตาม!!

            ถ้าจะว่าไปแล้ว ภาพชุด The Crying Boy เด็กร้องไห้ ใบหน้าเด็กเศร้าๆ พวกนี้สร้างกันมาหลายรูปแบบ ทั้งเด็กหญิง เด็กชายที่มีอายุตั้งแต่ 4-7 ปี พอพิมพ์เสร็จกลับกลายเป็นที่นิยมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำให้มีนักวาดหลายคนวาดก๊อปๆ รูปแบบตามกันมาเป็นจำนวนมาก และผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง วางขายในห้างฯ ที่อังกฤษในช่วงทศวรรษ 1960 – 1970 น่าจะมีมากกว่า 50,000 ใบ

            ภาพที่เห็นนี้ไม่ใช่ภาพต้นฉบับ เป็นแค่ภาพที่พิมพ์ซ้ำขึ้น คำสาปนี้มาจากผู้วาดเอง คือ จี บราโกลิน ต้นเหตุเกิดจากนายแบบตัวน้อย คือเด็กชาย ดอน โบนิลโล (Don Bonillo) วิ่งเล่นอยู่บนท้องถนนในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ขณะกำลังเดินเล่น เขาพบเข้าโดยบังเอิญ ตอนนั้นเด็กไม่ยอมพูดและมีดวงตาที่เศร้ามาก อาศัยอยู่กับบาทหลวง ท่านเป็นคนเล่าเรื่องของเด็กให้เขาฟัง…

            เด็กชายคนนี้มีอดีตที่น่าสลดหดหู่มาก เขาได้เห็นพ่อและแม่ของตัวเองเสียชีวิตในกองเพลิงไปต่อหน้าต่อตา แต่ตัวเองหนีรอดมาได้ หลายคนได้เตือนให้นักวาดคนนี้อย่าไปยุ่งกับเด็กคนนี้ เพราะเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน มักจะมีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเสมอ เขาไม่เชื่อคำเตือนและรับเด็กชายมาเลี้ยงดู

            ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เขาอุปถัมภ์เด็กชาย เขากลับขายภาพวาดได้มากขึ้นราวกับเด็กคนนี้นำโชคมาให้เขา รวมทั้งภาพชุดเด็กชายร้องไห้ก็ได้รับความนิยมเกินคาด กระทั่งวันหนึ่งก็เกิดไฟไหม้ขึ้นจริงๆ นักวาดภาพโกรธมากจนออกปากไล่เด็กชายออกจากบ้าน และไม่มีใครเคยพบเห็นเด็กชายคนนี้อีกเลย

            ปี ค.ศ. 1976 เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ไฟลุกไหม้ทั้งคันที่ถนนนอกเมือง ใกล้กับเมืองบาร์เซโลนา พบเอกสารระบุว่าผู้ตายมีชื่อว่า ดอน โบนิลโล ซึ่งเป็นคนเดียวกับเด็กในภาพวาด? แต่ก็ไม่มีใครยืนยันว่าใช่เขา

          เริ่มต้นคำสาป

            คำสาปนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 กันยายน ค.ศ. 1985 เมื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอังกฤษ เดอะซัน ได้ลงบทความที่พาดหัวเรื่องว่า “คำสาปให้เพลิงไหม้ของเด็กร้องไห้” หนังสือพิมพ์นี้เป็นแนวปกิณกะอ่านง่ายๆ สบายๆ มีประเด็นให้หยิบมาคุยกันได้ แต่พอเจอข่าวนี้กลายเป็นข่าวฮอต ถูกพูดถึงเป็นไฟลามทุ่ง

            เดอะซันได้ลงภาพเด็กร้องไห้พร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพว่า “น้ำตาสำหรับความกลัว…” เป็นภาพที่พนักงานดับเพลิงอ้างถึง แล้วยังบอกอีกด้วยว่าภาพพิมพ์เด็กร้องไห้ที่ลงชื่อจิตรกร จี บราโกลิน นี้วางขายในแถบย่านคนงานทางภาคเหนือของอังกฤษ มันถูกแขวนประดับไว้ในห้องนั่งเล่นที่มีครอบครัวแล้วมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าภาพเด็กร้องไห้ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระแสฮิตฟีเวอร์มาแล้ว

            เนื้อข่าวและภาพขึ้นหน้าแรกชัดเจน เมื่อบ้านของนายรอนและนางแมรี่ ฮอลล์ ที่เมืองรอเทอรัม สองสามีภรรยาผู้สูญเสียที่อยู่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ต้นเพลิงเกิดจากกระทะย่างไส้กรอกในห้องครัว ซึ่งอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน หลังเกิดเหตุเพลิงได้ลุกลามไปทั่ว และโหมขึ้นไปยังชั้นสอง หลังจากเพลิงสงบ พวกเขาเดินสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ได้พบว่ายังมีของที่รอดจากการถูกไฟเผาไปหมด นั่นคือภาพเด็กร้องไห้

            ภาพไม่เหมือนว่าอยู่ในเปลวเพลิงทั้งสองจึงเริ่มสงสัยปนหวาดกลัวภาพเด็กร้องไห้ ยิ่งได้รับคำตอกย้ำจาก ปีเตอร์ ฮอลล์ น้องชายของรอนที่ทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงประจำสถานีดับเพลิงของเมืองรอเทอรัม กับอลัน วิลคินสัน หัวหน้างานของปีเตอร์ ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า…พวกเขาเคยเห็นภาพเด็กชายร้องไห้ในบ้านที่ถูกไฟไหม้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทุกบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ บ้านนั้นจะต้องมีภาพเด็กร้องไห้อยู่ด้วย ภาพเหล่านั้นเหมือนไม่โดนไฟเผา หรือติดไฟแม้แต่นิดเดียว!

            อลัน วิลคินสัน ได้ค้นรายละเอียดจากที่จดบันทึกไว้ พบว่าไฟไหม้ที่เกี่ยวข้องกับรูปเด็กร้องไห้ ย้อนหลังไปถึงปี 1973 มีจำนวนรวมแล้วถึง 50 ราย แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทของคนแทบทั้งสิ้น และได้ให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดต่างออกไปว่า…เขาคิดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะมาจากความประมาทมากกว่า แต่เขาก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดภาพเด็กชายร้องไห้จึงไม่เป็นอะไรเลย?? ใครๆ ก็ว่าเป็นภาพวาดอาถรรพณ์ ใครมีอยู่ในบ้านอาจได้รับคำสาปก็เป็นได้ หรือมาจากนายแบบที่เป็นผู้นำมาซึ่งอาถรรพณ์ร้าย

          เพียงแค่วันเดียวที่ลงข่าว ทางเดอะซันก็รับโทรศัพท์จากบรรดาผู้อ่านที่อ้างตัวว่าตกเป็นเหยื่อคำสาปเด็กร้องไห้…พอมีข่าวนี้ออกมาทำให้บ้านไหนที่มีภาพเด็กนี้ติดอยู่ถึงกับผวา พากันกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เคราะห์ร้ายขึ้นกับตัวบ้าง มีคนส่งข่าวประสบการณ์และโทรมาหาแมคเคนซีเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อเนื่องกันนานถึงเดือนครึ่ง จนเขาถึงกับลงประกาศว่า “ถ้าคุณกังวลกับภาพเด็กชายร้องไห้ที่แขวนอยู่ในบ้านคุณ ก็จงส่งมาให้เราทันที เราจะทำลายภาพพวกนี้ให้คุณเอง แล้วดูซิว่าจะมีคำสาปเกิดขึ้นไหม”

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนส่งภาพเด็กชายร้องไห้จากทั่วสารทิศในหลายมุมเมือง และภาพหลายๆ แบบอีกด้วย มีจำนวนมากว่า 2,500 ใบ และอยู่ในสำนักงานของหนังสือพิมพ์เดอะซัน บนถนน Bouverie Street บางภาพมีความสูงเกือบ 4 เมตร ทั้งหมดถูกเผาทำลายไปในคืนวันที่ 31 ตุลาคม คืนฮาโลวีนของปีนั้น

จากนั้นไม่นาน ปีถัดมาได้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในสำนักงานของเดอะซัน คนงานส่วนหนึ่งเผากระดาษที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้พิมพ์เพื่อทำการประท้วง ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้หลายคนอดคิดถึงเรื่องการเผารูปภาพนับพันเมื่อปีที่แล้วไม่ได้ว่า มันจะเป็นอาถรรพณ์คำสาปจริงๆ หรือ “ในที่สุดคำสาปได้หวนกลับมาทำร้ายคนที่ขุดคุ้ยเรื่องนี้เป็นคนแรก”

          ผู้ประสบเหตุอาถรรพณ์

            จากนี้เรามาดูว่า ใครบ้างที่มีภาพเด็กร้องไห้ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม (เอกลักษณ์ภาพ) แล้วพบเหตุการณ์อะไรบ้าง พวกเขาให้ข้อมูลกับเดอะซัน เริ่มที่รายแรก โดร่า แมนน์ จากมิทแชม เชอเรย์ ได้เล่าว่าบ้านเธอถูกไฟไหม้หลังจากซื้อภาพพิมพ์นั่นมาได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น เธอยังบอกด้วยว่า ภาพที่มีทั้งหมดในบ้านเธอถูกไฟเผาเรียบ ยกเว้นภาพเด็กร้องไห้ภาพเดียวที่เหลือรอดไม่ไหม้สักนิด

            เมื่อพบเหตุการณ์เช่นนี้คงไม่มีใครหรอกที่จะไม่ฉุกคิดและกังวล ต่อมาคือแซนดร้า เคสก์ แห่งคิวเบิร์น ยอร์คเชียร์เหนือ นางได้เล่าว่าน้องสะใภ้กับเพื่อนอีกคนต่างได้รับความเดือดร้อนจากไฟไหม้ และเกิดเรื่องขึ้นหลังจากที่พวกเธอได้ภาพเด็กร้องไห้มาครอบครองแล้วด้วย

            ส่วนครอบครัวจากนอตติงแฮม ได้กล่าวอ้างโทษภาพพิมพ์ว่าเป็นต้นเหตุให้เพลิงไหม้ ทำให้พวกเขาต้องไร้บ้าน หรือจะเป็นไบรอัน ปาร์ก รายนี้เข้าโรงพยาบาลทั้งเมียและลูกอีก 3 คนเลย เนื่องจากสำลักควันไฟ และพบว่าภาพเด็กร้องไห้ไม่เป็นอะไรเลย มันยังคงแขวนอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่นที่ไหม้จนดำปี๋ เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็เอะใจและต้องการทำลายมันทิ้ง แต่ก็กลัวภาพดังกล่าวมาก

            เรื่องเล่าเร้นลับและแปลกๆ เกี่ยวกับรูปเด็กร้องไห้มีเข้ามาเรื่อยๆ คล้ายจะย้ำเตือนผู้ที่ครอบครองรูปภาพพวกนี้ว่าอย่าได้เสี่ยงกับไฟไหม้ หรืออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป็นไปได้ สตรีนางหนึ่งเล่าว่าเธอเห็นภาพวาดเด็กร้องไห้แกว่งไปแกว่งมาบนผนังได้

            สุภาพสตรีจากเพนตันบอกว่า บุตรชายวัย 11 ปีของเธอถูกตะขอเกี่ยวจู๋ หลังจากที่เธอซื้อภาพนี้มา นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ยังลงจดหมายของนางโรส ฟาร์ริงตัน ที่ส่งมาจากเมืองเพรสตัน เล่าว่า “นับแต่ดิฉันซื้อมันมาเมื่อปี 1959 ลูกชายของฉันสามคนและสามีของดิฉันได้เสียชีวิตกันไปหมด ดิฉันมักสงสัยว่า หรือมันจะมีคำสาป”

            อีกคนเล่าว่า เธอพยายามทำลายภาพพิมพ์สองภาพโดยเอาไปเผาไฟ แต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่ามันไม่ไหม้ไฟ ปอล คอลเลียร์ พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ลองพิสูจน์สิ่งที่เธอพูด เขาโยนภาพเข้ากองไฟ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ภาพนั้นก็ไม่มีแม้แต่รอยถูกไฟเลีย เขาบอกกับเดอะซันว่า “มันน่ากลัวจริงๆ ไฟไม่อาจแตะต้องมันได้ ผมเชื่อจริงๆ ว่ามันต้องมีอาถรรพ์ เรารู้สึกเสี่ยงเป็นสองเท่าที่เรามีมันถึงสองรูป เราจึงตัดสินใจกำจัดมัน”

            ไม่รู้เหมือนกันว่าคำสาปอาถรรพณ์จากภาพจะยังคงอยู่หรือไม่ เพราะยุคนี้สามารถโหลดภาพไว้ในคอมได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นอะไรจะเกิดขึ้นกับทุกบ้านที่มีคอมและมีภาพไว้ในคอมหนอ?

/

เรื่องและภาพโดย. กัญญ์


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •