19 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                        เรื่องราวชีวิตของขุนแผน ถือได้ว่าเป็นมหากาพย์แห่งไสยศาสตร์ไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีทุกแขนงที่ท่านเป็นและนำมาใช้ เรื่องของสองขุน คือขุนช้างขุนแผน นัยว่ามีเค้ามาจากเรื่องจริง แล้วคนนำมาพูดเล่าสู่กันฟังในช่วงอยุธยาตอนกลาง ดังนั้น ท่านน่าจะอยู่ในช่วงตอนต้นเกือบถึงตอนกลา

                        อีกทั้งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านร้านถิ่นชอบมาก ชอบข้ามกาลเวลาเลยก็ว่าได้ เมื่อเล่าแบบมุขปาฐะ ปากต่อปากย่อมต้องมีการตัดต่อเสริมกันใหม่ จนเรื่องยาวเป็นมหากาพย์ดังที่กล่าวๆ ไปแล้ว เพราะเรื่องของไทยแสดงให้เห็นทุกด้านในสภาพสังคมไทย ประเพณี ณ เวลานั้นเป็นอย่างดี

                        เอกสารสำคัญๆ เกี่ยวกับกาพย์กลอนได้ถูกเผาไปพร้อมกับกรุงศรีฯ แตกในครั้งนั้น แต่เรื่องราวของท่านคนก็ยังจดจำได้แม่นยำ คล้ายเป็นเรื่องจรรโลงใจ ผ่อนคลายได้ดี เรื่องที่เราได้อ่านและรับรู้ในวันนี้เป็นการนำมาเรียงร้อยแต่งเพิ่มโดยนักกวีและพระราชนิพนธ์เพิ่มในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่2

                        ไสยศาสตร์ของขุนแผนมีหลายกลุ่ม ดังนั้นจึงขอแบ่งให้เห็นกันชัดๆ ดังนี้

                        1. ไสยศาสตร์ด้านคาถาอาคม

                        2.ไสยศาสตร์ด้านภูตผีวิญญาณ

                        3. ไสยศาสตร์ด้านเครื่องราง

                        4.ไสยศาสตร์ด้านคงกระพันชาตรี

                        เริ่มที่ไสยศาสตร์ด้านอาคมกันก่อน เพราะขุนแผนมีวิทยาอาคมเยอะ ยิ่งถอดความบทเสภาด้วยละก็ ต้องร้องโอ้มายก็อด ท่านช่างเชี่ยวชาญเป็นจอมขมังเวทย์ตัวจริง เช่น คาถาอำนาจครุฑ อำนาจยักษ์ คาถามหาจังงัง คาถานี้ใช้ภาวนาสำหรับให้ศัตรู แล้วจะทำอันตรายแก่เราไม่ได้ พูดไม่ออก ขยับกายไม่ได้ ดุจดังถูกสะกดจิตไว้ แค่นี้เบาๆ ต้องเจอบทนี้ คาถามหาจังงัง ขุนแผนเอามาใช้กับพวกพ้องบริวารของขุนช้างซึ่งติดตามวันทองไป แล้วตวาดด้วยพระเวทย์ทำให้ผู้คนที่ถืออาวุธมาถึงกับตกใจวางทิ้งอาวุธและวิ่งหนีราวกับเจอผี ขุนช้างเองยังกลัวใจเต้นระรัว แถมไม่มีเรี่ยวแรงเสียอย่างนั้น

                        แต่ที่แสบกว่าก็คือ คาถาทำให้ขี้แตก อยู่ในตอนที่ขุนช้างว่าความใส่ขุนแผน พอเสร็จก็เจอมนต์อัดทวารที่ขุนแผนสวดและเป่าไปที่ขุนช้างที่หว่างอก เท่านั้น ขุนช้างถึงกับเหงื่อแตกหน้าแดง ลนลานไปหมด ขุนช้างบอกไม่ไหวแล้วปวดท้องขี้ อึดอัดทนไม่ได้ ค่อยว่าความกันต่อวันอื่น ว่าแล้วก็รีบเผ่น….

                        ท่านจะไม่เก่งได้อย่างไร พ่อขุนไกรก็เก่งและเชี่ยวชาญทางพระเวทย์แบบหาตัวจับยาก ส่วนนางทองประศรีย่าของขุนแผนก็ใช่ย่อยเช่นกัน นางทองประศรีก็มีบทบาทในการส่งเสริมและสอนขุนแผนให้เรียนรู้เรื่องวิชาอาคม เช่นนั้นลองมาดูว่าสอนอะไรไปบ้าง

ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนต์

ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน

หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำมัน

เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น

มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน ทั้งเลขยันต์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย

แล้วทำตัวหัวใจอิติปิโส สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย

สะกดคนมนต์จังงังกำบังกาย เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี

ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี

ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา

                        นี่ขนาดยังเป็นเด็กน้อยนะนี่ เก่งกว่าผู้ใหญ่เสียอีก เมื่อขุนไกรถูกใส่ร้ายจนถูกประหาร ย่าต้องหอบหลานหนีไปอยู่เมืองกาญจน์ ที่จริงขุนแผนเริ่มเรียนวิชากับพระตอนอยู่สุพรรณแล้ว พอมาอยู่เมืองกาญจน์ก็เรียน และกลับมาอยู่สุพรรณบวชเณร พูดถึงการใช้อาคมขุนแผนเก่งมาก เสกหมากให้สาวกินก็หลงใหล จริงๆ ไม่เสกมนต์ก็น่าจะหลงขุนแผนอยู่แล้วกระมัง มนต์รัญจวนใจเป็นยอด ท่านจึงมีเมียหลายคน ต้องบอกว่าครอบครัวขุนแผนทั้งตระกูลยันหลาน เก่งและชำนาญในไสยศาสตร์เกือบทุกแขนงเลย

                        วิชาที่ท่านเรียนก็ว่าเยอะแล้ว แต่เหมือนขุนแผนจะยังไม่พึงพอใจ ต้องเสาะหาของวิเศษประจำตัวอีก ในที่นี้ก็คือ ต้องดีเลิศเหนือกว่าของแบบเดียวกัน และต้องเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์อีกด้วย ของดีที่ใครๆ ก็รู้ได้แก่ ม้าสีหมอก เป็นม้าที่ได้ลักษณะม้าดีตามตำรา พบที่เมืองเพชรบุรี เป็นม้าลูกผสมม้าเทศ ตัวสีหมอก ตาสีดำ เป็นม้ารุ่นหนุ่มจึงซุกซนเที่ยวไล่กัดม้าตัวอื่นๆ อยู่เสมอ คนดูแลม้าก็ไล่ตี

                        ขุนแผนพบเข้าก็ถูกใจจึงขอซื้อ เจ้าของก็เบื่อมันเลยยอมขายให้ ท่านรีบจ่ายเงินทันที แล้วหยิบหญ้าให้ม้ากิน จากม้าดุกลายเป็นเชื่องทันที เจ้าสีหมอกถูกเลี้ยงด้วยอาคมเสียเยอะ เช่นเสกหญ้าให้กินเพื่อเพิ่มพละกำลังให้มีพลังมากกว่าม้าปกติทั่วไป และอาจลงคาถาให้เจ้าสีหมอกหนังเหนียวด้วยก็ได้ มิเช่นนั้นจะเสียชื่อม้าของขุนแผนจอมขมังเวทย์หมด เราจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเจ้าสีหมอกจึงแสนรู้และต่างจากม้าตัวอื่นๆ

                        เรื่องอาคมต้องทราบว่ามีอยู่ในทุกแขนงของไสยศาสตร์ ไม่งั้นก็ไม่สัมฤทธิผล ต่อมาคือภูตผี ขุนแผนสามารถเรียกผีพรายและคุมผีมาได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เก่งไหมล่ะ? ดังนั้นท่านจึงมีโหงพรายเป็นเพื่อนและคอยดูแลรับคำสั่งมาตลอด แต่ผีที่เหนือกว่าโหงพรายก็คือกุมารทอง อันนี้มีมุมมองของไสยศาสตร์ได้กล่าวว่า

                        ผีที่เกิดจากแม่ตายทั้งกลม และต้องเป็นผีผู้ชายลูกคนหัวปีด้วยแล้ว จะมากด้วยฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ กุมารทองของขุนแผนก็คือลูกของนางบัวคลี่เมียอีกคนที่เป็นลูกสาวของโจรป่าชื่อหมื่นหาญ หมื่นหาญคนนี้รูปร่างอัปลักษณ์ใจดำ คลั่งในวิชาคุณไสยมาก ลูกน้องโจรก็เก่ง ล้วนอยู่ยงคงกระพันเช่นกัน

                        ขุนแผนเคยช่วยหมื่นหาญให้รอดตายจากวัวขวิดไว้ ทั้งเห็นขุนแผนหล่อและเก่ง จึงแทนคุณด้วยการยกนางบัวคลี่ให้ ขุนแผนเป็นทหารไม่ใช่โจรชั่วในสันดานจึงไม่เคยออกปล้นกับพ่อตา วันๆ เอาแต่ขลุกกกเมียในห้องจนท้องใหญ่ โจรชั่วไม่สำนึกในบุญคุณต้องการฆ่าขุนแผนโดยให้ลูกสาวเป็นคนวางยาพิษในอาหาร แต่บ้างก็ว่าพ่อเป็นคนแอบใส่ยาพิษ แล้วนางไม่รู้เอาสำรับอาหารไปให้ผัว

                        แต่ที่ไหนได้ โหงพรายกระซิบบอกให้ขุนแผนรู้ตัวเสียก่อน ตอนแรกก็บ่ายเบี่ยงไม่กินเสียทีเดียว ยังไม่เชื่อว่าเมียรักจะฆ่าตน เลยเททิ้งนกกามากินก็ตาย ขุนแผนคงแค้นเมียที่ไม่ซื่อสัตย์ จึงลวงนางไปถ้ำใหญ่และฆ่านางทิ้ง ควักเอาทารก 7 เดือนออกมาย่างไฟ ทำพิธีชุบกุมารทองจนสำเร็จ

                        ในถ้ำนี้ปรากฏภาพของนางบัวคลี่ มีคนไปกราบไหว้กันเยอะที่เมืองกาญจนบุรี อีกเหตุผลหนึ่งที่ขุนแผนต้องฆ่าลูกด้วยเพราะไม่ต้องการให้ลูกเป็นโจรเจริญรอยตามตา

                        ขอพูดถึงโหงพรายสักหน่อย จริงๆ โหงพรายคือผีตายโหงที่ขุนแผนไปปลุกมาใช้งานเมื่อตอนเป็นเณรแก้ว และผีโหงพรายนี่แหละที่คอยรับใช้ขุนแผนและลูกด้วย อย่างตอนพลายงามถูกขุนช้างหลอกไปฆ่าในป่า โหงพรายก็เอาตัวกำบังพลายงามไว้ ขุนช้างทั้งทุบตีพลายงามและนำขอนไม้มาทับร่างหวังให้ตายแล้วหนีไป

                        โหงพรายก็ช่วยเหลือให้พลายงามฟื้นคืนสติ รอดชีวิตมาได้ แล้วแนะนำตนว่าเป็นโหงพราย บ่าวของขุนแผน แล้วจึงปลอบโยนพลายงามไม่ให้เสียขวัญ นับว่าขุนแผนเป็นนายที่ดีเลี้ยงโหงพรายให้จงรักภักดีได้แบบไม่ต้องสั่งให้ไปทำโน่นนี่ โหงพรายเหมือนแม่บ้านคอยตรวจตราดูให้หมดเลย

ขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้น จิตรกรรมฝาผนังที่วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี โดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย

                        ต่อมาคือดาบฟ้าฟื้น อันนี้ขุนแผนต้องเดินทางเพื่อเก็บมวลสาร วัตถุที่ต้องนำมาผสมเพื่อสร้างให้ครบตามตำรา อีกทั้งฤกษ์ยามด้วย การตีดาบฟ้าฟื้นต้องใช้ฤกษ์เป็นหลัก พลาดไปอาจต้องรอกันอีกหลายปี

                        เรื่องแสดงอิทธิปาฏิหาริย์…เรื่องนี้น้อยนักที่จะรู้ว่ามีวิชานี้ในไสยศาสตร์ด้วย การแสดงอิทธิปาฏิหาริย์เคยปรากฏในพุทธกาลมาแล้ว สำหรับครั้งนี้เป็นตอนที่ขุนแผนออกจากคุกและแสดงอวดพร้อมกับพลายชุมพลต่อหน้าพระที่นั่งและสาธารณชน การแปลงกายเป็นสัตว์ต่างๆ ได้ วิชานี้ต้องใช้อานุภาพจิตที่สูงมากด้วย เช่น แปลงเป็นเสือโคร่ง งูเห่า นกกด ช้างตกมัน ฯลฯ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เถรขวาดที่แค้นพระไวยฯ ได้แปลงเป็นจระเข้ใหญ่เที่ยวไล่กัดกินคนในกรุงศรีฯ พลายชุมพลอาสาปราบโดยแปลงเป็นจระเข้เข้ากัดเถรขวาดตาย

                  ต้องยอมรับว่า ไสยศาสตร์ในเรื่องขุนแผนที่มีในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยานั้นสุดยอดจริงๆ !

/

เรื่องโดย. กรุเก่า

ภาพโดย. ภาพวาดฝีมือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต, facebook ชมรมคนรักษ์สุพรรณ, www.silpa-mag.com


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •