21 พฤษภาคม 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                10 คำสาปสยองโลกเป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันมาแต่สมัยอดีต บางเรื่องพิสูจน์ได้ แต่บางเรื่องก็ยังคงทิ้งปริศนาไว้ ที่หลายคนยังเชื่อว่ามีสิ่งเร้นลับ และเป็นคำสาปที่ทำให้เกิดเรื่องต่างๆ ขึ้น เรื่องแรกคือ

            1.เพชรโฮป (Hope Diamond)

                เป็นเพชรสีนํ้าเงินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีนํ้าหนักถึง 45.52 กะรัต โดยพ่อค้าฝรั่งเศสนามว่า จอห์น แบ็บติส ทราวิเนียร์ ได้ขโมยมาจากพระนลาฏ (หน้าผาก) เทวรูปฮินดูในวิหารแห่งหนึ่งของอินเดีย เมื่อราวปี ค.ศ. 1600 โดยหารู้ไม่ว่าโคตรเพชรนี้มีคําสาปติดมาด้วย นั่นคือ มันผู้ใดที่ขโมยหรือครอบครองเพชรโฮป จะต้องประสบความวิบัติทุกรายไป

                และก็เป็นจริงตามคําสาป นับตั้งแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งทรงซื้อเพชรนี้ไว้จากนายทราวิเนียร์ พระองค์และพระราชวงศ์ก็ทรงได้รับภัยร้ายจากการปฏิวัติของฝรั่งเศสตลอด กระทั่งนายเฮนรีย์ ฟิลิป โฮป (เจ้าของชื่อเพชรเม็ดนี้) นายปิแอร์ คาร์เทียร์ (พ่อค้าอัญมณีชื่อดังที่เรารู้จักกันดี) ฯลฯ ล้วนประสบกับอัปมงคล

                จนถึงผู้ครอบครองรายสุดท้าย คือ ตระกูลของเซอร์ ฮาร์รีย์ วินสตัน ได้ให้เลดี้ไฮโซยืมสร้อยคอเพชรโฮปสวมใส่ในงานราตรี สองเดือนต่อมา ลูกน้อยของเธอก็ตายอย่างลึกลับ สามีกลายเป็นบ้าและต้องหย่าขาดกันในที่สุด ทายาทตระกูลวินสตันจึงมอบเพชรโฮปให้กับสถาบันสมิธ โซเนียนของสหรัฐฯ เป็นผู้อนุรักษ์แทน

                2.วิหารกระดูก แห่งเมืองอีโวรา ประเทศโปรตุเกส

            วิหารนี้สร้างในศตวรรษที่ 15 โดยพระนิกายฟรานซิสกัน ที่ประหลาดพิสดารคือผนังภายในวิหารนี้สร้างขึ้นจากกระดูกของมนุษย์กว่า 5,000 คน เท่านั้นยังไม่พอ มีซากศพ 2 ร่างห้อยแขวนติดผนังด้านหนึ่งด้วย

                ตํานานระบุว่า ครั้งกระโน้นมีสตรีนางหนึ่งซึ่งยึดมั่นในคาทอลิก แต่ได้ถูกสามีผู้โมโหร้ายกับลูกชายของเธอช่วยกันโบยตีจนตาย ก่อนสิ้นชีวิตเธอได้สาปให้วิญญาณของเขาทั้ง 2 ลงนรก แม้แต่พื้นพสุธาก็จะไม่ยินดีรับร่างของเขาไว้

                ไม่นานนัก ชายทั้งสองก็ถึงแก่มรณกรรม ชาวเมืองพยายามขุดหลุมฝังศพของเขา แต่ขุดลงไปที่ใดก็เจอแต่หิน เมื่อจนปัญญา พวกเขาจึงนําเอาซากศพทั้งสองขึ้นไปห้อยแขวนไว้กับผนังวิหารดังกล่าว สําหรับให้นักบวชได้ใช้ปลงในระหว่างทําสมาธิ นับเป็นคําสาปที่ขลังยิ่ง

            3.ละครเรื่อง แม็คเบ็ธ (Macbeth) ของเชคสเปียร์

            ละครเรื่องนี้มีฉากที่เกี่ยวกับแม่มดและคําสาปมนต์ดํา ว่ากันว่าทําให้แม่มดตัวจริงสมัยนั้นเคืองแค้นที่เชคสเปียร์นําเอาเรื่องลับของพวกเขามาเปิดเผย จึงสาปให้ละครเรื่องนี้มีอันเป็นไป หากใครนํามาแสดง โดยเฉพาะตัวละครที่เล่นบทแม็คเบ็ธ

                ผลของคําสาปอุบัติขึ้น ตั้งแต่หนแรกสุดที่ละครนี้ออกแสดง โดยผู้แสดงที่ชื่อฮัล เบอร์ริดจ์ ซึ่งสวมบทเลดี้เอม ได้ล้มเจ็บลงในคืนนั้นและสิ้นใจตายหลังเวที

                นับแต่นั้นมาเกือบ 400 ปี ละครเรื่องนี้ก็มีอาถรรพณ์เกิดกับนักแสดงมาตลอด เช่น มีอุบัติเหตุบาดเจ็บ ล้มตาย บางคนฆ่าตัวตาย

                ที่น่าพรึงที่สุดก็คือ ในปี ค.ศ. 1947 นักแสดงชื่อ ฮาโรลด์ ทอร์แมน เป็นผู้รับบทแม็คเบ็ธ ในระหว่างการดวลดาบนั้น คู่ต่อสู้ของเขาลืมสวมที่ครอบปลายดาบ พอแม็คเบ็ธถูกแทงล้มลงกลางเวที ผู้ดูต่างก็ปรบมือพอใจในบทบาท ทว่าหลังเวทีนั่นสิ ต่างตกใจกันยิ่งนักที่เขาโดนแทงจริงๆ ทอร์แมนตายใน 3 สัปดาห์ต่อมา

            4.คําสาปของพ่อมดแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ สกอตแลนด์

                ปี 1899 ครอว์ลีย์อาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวทางตอนใต้ของทะเลสาบที่ลือลั่นในเรื่องอสุรสัตว์ กล่าวกันว่าเขาขมังในเรื่องเวทมนตร์ และเลี้ยงวิญญาณภูตไว้ถึง 115 ตน เขาสามารถบันดาลให้เพื่อนบ้านหลายคนมีอันเป็นไปต่างๆนานาจนเป็นที่หวาดหวั่นไปทั่ว

                ก่อนตาย ครอว์ลีย์ได้สาปทิ้งท้ายไว้กับยอดเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า “ปล่องไฟปีศาจ” และครอว์ลีย์เคยหลงทางที่ยอดเขานี้ ซึ่งทําให้เขาขัดเคืองใจ จึงสาปว่าเมื่อใดที่ยอดเขานี้พังทลาย สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ก็จะถูกปลดปล่อยแผ่กระจายไปด้วย

                ปล่องไฟปีศาจยืนหยัดอยู่นานนับพันปี แต่แล้วในเดือนเมษายน 2001 ยอดเขาสูงราว 70 เมตรก็มีอันถล่มทลายลงมาในทะเล เรื่องนี้ทําให้ผู้ที่เชื่อในตํานานพากันผวาไปตามๆ กัน ป่านนี้นรกคงครอบคลุมแผ่นดินแล้ว

            5.คําสาปวูดู แห่งนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา

            แม่มดวูดูผู้นี้มีนามว่ามารี ลาโว มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1800 เพื่อนบ้านรํ่าลือกันว่า เธอสามารถสาปได้ทั้งคนและสัตว์ โดยใช้มนต์ดําของวูดู กระทั่งทุกวันนี้ยังมีการจัดทัวร์พาไปชมบ้านของเธอ รวมทั้งบนบานขอให้เธอช่วยสาปใครก็ได้ เรียกกันว่าบลัดดี้มารีทัวร์

                ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องปฏิบัติดังนี้ เริ่มจากเคาะ 3 ครั้งบนโลงศพของมารี แล้วหมุนกายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของเธอออกมาดังๆ จากนั้นก็บอกถึงจุดประสงค์ของคุณ (ว่าจะให้เธอดลให้ศัตรูของคุณวิบัติอย่างไร) ไม่เชื่อก็เดินทางร่วมทัวร์ไปพิสูจน์ได้

            6.คําสาปตุตันคาเมน อาถรรพณ์ฟาโรห์หนุ่ม

                ตุตันคาเมน เป็นฟาโรห์หนุ่มที่ถูกกล่าวถึงกันมากในเรื่องอาถรรพณ์จากคำสาป ที่นักบวชแดนไอย์คุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของพระองค์ ข้อความขลังเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์ที่ว่า “มรณะจักโบยบินมาสังหาร สู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งองค์ฟาโรห์” ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

                เชื่อกันว่า ความตายเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป นับแต่สุสานถูกเปิดเมื่อปี 1922 ผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คน

                และเล่ากันว่านับจากนั้นมา แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร หากครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา รวมถึงลอร์ด คาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสียชีวิตลงหลังจากถูกยุงกัด

                7.อีกาแห่งป้อมปราสาทลอนดอน

                ป้อมปราสาทนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะถูกใช้เป็นที่คุมขังและประหารบุคคลสําคัญของอังกฤษมากมาย ลานปราสาทแห่งนี้จะมีการเลี้ยงดูอีกาจํานวน 6 ตัว เนื่องจากมีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่าถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือน และสิ้นสุดพระราชวงศ์แห่งอังกฤษ

                เรื่องนี้มีตํานานปรากฏเป็นเอกสารในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ราวศตวรรษที่ 17 ด้วย ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยแต่อย่างใด และทําให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นยาม หรือกษัตริย์ ถือเป็นเรื่องจริงจังอย่างเคร่งครัด เช่น ถ้ามีอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีนทันที และต้องจัดหาอีกาตัวใหม่มาทดแทนโดยด่วน

            8.คําสาปตะกั่วแห่งกรีซ

                มีการขุดค้นโบราณสถานชื่ออโกรา นครเอเธนส์ ทําให้พบแผ่นม้วนตะกั่วบางๆ ซึ่งมีจารึกภาษาโบราณอันเป็นคําสาปปรากฏอยู่ แผ่นตะกั่วนี้เรียกกันว่าคาตาเรส (Katares) ใช้ใส่ลงในโลงศพก่อนจะฝัง

                เชื่อกันว่าตะกั่วจะทําให้คําสาปจมลงไปอย่างรวดเร็วถึงขุมนรกพร้อมกับวิญญาณผู้ตาย เพื่อที่พญายมจะได้อ่านคําสาป และดลบันดาลให้เป็นไปตามนั้น

                นอกจากนี้การฝากหรือทิ้งแผ่นคําสาปลงไปในนํ้าก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง เพราะนํ้าจะสามารถสื่อไปถึงผู้ที่เราต้องการสาปได้ ซึ่งแผ่นคาตาเรสกว่า 100 แผ่นที่ค้นพบนี้ ได้ระบุจ่าหน้าถึงซูลิส ไมเนอร์วา ซึ่งเป็นเทพีด้านอุทกของโรมัน

            9.คําสาปวัฏจักรมรณกรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

                นั่นคือประธานาธิบดีสหรัฐฯ ท่านใด ที่ได้รับเลือกตั้งในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 จะต้องถึงแก่มรณกรรมในหน้าที่ ตํานานระบุว่าผู้ที่สาปก็คือ เตคัมเซ่ หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ผู้คับแค้นจากการถูกชนผิวขาวเข้ามายํ่ายีแย่งแผ่นดิน

                เขาได้สาปไว้ก่อนที่จะถูกฆ่าตายในปี ค.ศ. 1813 ประธานาธิบดีคนแรกที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ วิลเลียม เฮนรีย์ แฮร์ริสัน ที่ได้รับเลือกตั้งใน ค.ศ. 1840

                ถัดจากนั้นคําสาปก็เป็นจริงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ลินคอล์น (1860) การ์ฟิลด์ (1880) แม็คคินลีย์ (1900) ฮาร์ดิ้ง (1920) รูสเวลท์ (1940) เคนเนดี้ (1960) เพิ่งมีรอดรายเดียวคือ ประธานาธิบดีเรแกน (1980) แต่ท่านก็ถูกมือปืนชื่อ จอห์น ฮิงค์ลีย์ ยิงบาดเจ็บสาหัสในปี 1981 นัยว่าปืนที่ใช้นั้นไร้ประสิทธิภาพ ท่านจึงรอดพ้นอาถรรพณ์มาได้อย่างหวุดหวิด

            10.คําสาปในสวนอีเดน

                นับเป็นคําสาปแรกเริ่ม ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลกโน่นเลย โดยปรากฏเรื่องราวอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่า ก๊อดทรงเสกอาดัมมนุษย์ผู้ชายขึ้นก่อน จากนั้นก็แซะเอาซี่โครงของอาดัมมาเสกเป็นอีฟ แล้วส่งทั้งคู่ไปอยู่ในสวนอีเดน พร้อมรับสั่งว่าจะกินอะไรก็ได้ทุกอย่าง ยกเว้นผลไม้จากต้นแห่งความรู้หรือแอปเปิ้ล

                แต่ไอ้งูตัวแสบมันยุยงอีฟให้หมํ่าแอปเปิ้ลเข้าไป หมํ่าคนเดียวไม่พอ อีฟยังชักชวนให้อาดัมหมํ่าด้วย เมื่อขัดคําสั่งของพระเจ้าก็เป็นเรื่อง โดยไอ้งูจอมแสบโดนสาปให้ไปไหนมาไหนด้วยการใช้ท้องไถไป อีฟโดนสาปให้คลอดลูกด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ส่วนอาดัมต้องทํางานหาเลี้ยงท้องอย่างเหน็ดเหนื่อยทั้งชีวิต

                ซึ่งคําสาปมหากาฬนี้ก็ตกทอดมาถึงพวกเราทุกคนกระทั่งทุกวันนี้

เรื่องโดย. ทิวากร สุวพานิช

ภาพโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •