8 กันยายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

            บางครั้งก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดตามบ้านเรือนผู้คนทั่วไป หรือคนเดินถนนก็สามารถพบเห็นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้วิเศษมาจากไหน

            และมีบ้างที่เรื่องเหล่านี้เกิดกับคนใกล้ตัว เกิดกับเพื่อนกับพี่น้องญาติสนิท แม้แต่ตัวเราเองก็ตาม

            ผู้เขียนเชื่อว่าเรื่องประหลาด หลายครั้งที่เราแยกไม่ออก คัดเลือกไม่ถูก หรือบอกไม่ได้ว่ามันประหลาดอย่างไร และพิสดารแค่ไหน

            ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นอีกเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องของเวลาและห้วงเวลาที่ไม่สามารถหยั่งรู้หยั่งถึงได้

            …เรื่องที่ว่านี้ ผู้เขียนอ่านมาจากเรื่องของสุภาพสตรีชาวอิตาลีคนหนึ่งคือ มิส มาเยนา อิลิตาลินี ภายหลังแต่งงานและเปลี่ยนนามสกุล ซึ่งเธอบันทึกเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนแต่งงาน

            มิส มาเยนา เกิดและโตที่เมืองโพสิตาโน เมืองเล็กๆ บนเนินเขาติดชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของอิตาลี ว่ากันว่าเมืองนี้สวยงามมาก

            จากเมืองที่เคยทำการประมงกลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งโพสิตาโน เดิมเป็นเมืองท่า ในการปกครองของแคว้นอะมัลฟี มีฐานะร่ำรวยอย่างมากในยุคกลาง

            เมืองที่ไร้ที่ราบแห่งนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างกันอยู่บนหน้าผาสูง ไล่เรียงกันลงมาเป็นแถบ โพสิตาโนจึงกลายเป็นเมืองทรงเสน่ห์

            และที่นี่เองที่มีเรื่องแปลกเกิดกับมิส มาเยนา เธอเล่าว่าวันที่เกิดเรื่องนั้นเป็นวันหนึ่งในฤดูร้อนที่อากาศร้อนมาก เธอกำลังนอนเล่นอยู่ที่ริมทุ่งหญ้าใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ร่มเย็นให้ร่มเงามาก

            เธอออกมาจากบ้านด้วยจักรยาน ขี่รถมาริมทุ่มแล้วหาที่ปูเสื่อนอนอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์เพราะเป็นช่วงปิดเรียนภาคฤดูร้อน

            ขณะที่เธอกำลังนอนเล่นอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

            เขามาจากไหน ฉันเองก็ไม่ทันได้สังเกต เขาเดินเข้ามาหาฉันแล้วถามว่า โพสิตาโนไปทางไหนครับ คุณผู้หญิง?

            ฉันวางหนังสือแล้วมองดูว่าใครถาม ก็พบว่าเขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาทีเดียว อายุอานามก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน ฉันบอกเขาว่า

            ที่นี่แหละค่ะ โพสิตาโน ตอนนี้คุณอยู่ในเมืองนี้แล้ว เขาถามอีกว่า คุณอยู่ที่นี่รึ? ฉันยอมรับว่าใช่ เขาถามอีกว่า ฉันพอจะรู้จักสถานที่แห่งนี้ไหม?

            เขาว่าพลางส่งรูปแปลกๆ ให้ฉันดูสามใบ รูปถ่ายที่ว่า ฉันไม่คุ้นตาเอาเสียเลย รูปหนึ่งเป็นสถานที่เหมือนถ้ำ และมีอะไรบางอย่างอยู่หน้าปากถ้ำ

            ส่วนอีกสองรูปเป็นอาคารรูปร่างแปลกๆ กับเป็นรูปปั้นของอะไรสักอย่างที่ดูไม่เหมือนคนนัก รูปร่างเหมือนสัตว์ที่มีห้าขา และมีคอยาวสองคอ

            ฉันส่งรูปทั้งสามใบนั้นคืนเขาและบอกว่า ฉันไม่เคยเห็นรูปสถานที่ในรูปทั้งสามใบนั้นเลย คุณแน่ใจหรือว่ามันอยู่ที่โพสิตาโนนี้ เขาบอกว่า…ใช่แน่ๆ เพราะคนของเขาบอกมาแบบนั้น

            ฉันเลยแนะนำให้เขาเดินไปถามคนในหมู่บ้าน เผื่อจะมีผู้ใหญ่ หรือใครที่พอจะรู้จัก พอจะช่วยเขาได้ เขาขอบคุณฉัน รับรูปคืนแล้วใส่ลงในกระเป๋าที่รูปร่างแปลกๆ ก่อนจะเดินจากไป

            เขาเป็นคนร่างสูง ใส่ชุดรัดรูปสีขาวอมเทา หรือเป็นสีเงินแบบด้านๆ ชุดของเขาน่าจะใส่แล้วร้อนมาก เพราะมันปิดหมดตั้งแต่คอลงมา พูดง่ายๆ ก็เหมือนชุดหมีนั่นเอง

            เขาหน้าตาดี รูปร่างดี และพูดเรียบๆ ด้วยภาษาที่ฟังแล้วเข้าใจได้ง่าย น่าจะเป็นคนต่างชาติ เขาดูอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน แต่เขาดูมีวุฒิภาวะมากกว่า

            เขาหายไปนาน แล้วตอนเย็นที่ฉันกำลังจะกลับบ้าน เขาก็กลับมาอีก เดินมาแบบเดียวกับตอนที่เขาเดินไป เขายิ้มและโบกมือ แล้วก้มศีรษะขอบคุณฉัน เป็นคนที่มีมารยาทดีทีเดียว

            …แล้วเขาก็เดินหายไปทางด้านหลังดงต้นไม้ใหญ่แถวนั้น แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรมาก คือเขาจะไปไหนมันก็เรื่องของเขา เวลานั้นฉันไม่ได้สนใจเลย

            จากนั้นฉันก็ไม่เจอเขาอีกนานมาก จนฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงาน คราวหนึ่งฉันหยุดงานพักร้อนและไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ก็พยายามพักผ่อนอยู่กับบ้าน และไปเดินเล่นในสวนริมน้ำเหมือนสมัยก่อน

            แม้ว่าเวลานี้ สวนและท้องทุ่งที่มีต้นไม้ใหญ่นั้นจะถูกบุกรุก บางส่วนกลายเป็นบ้านจัดสรรไปแล้ว แต่ความเขียวขจีก็ยังมีอยู่อีกมาก ฉันชอบไปกางเปลนอนเล่นในช่วงหยุดพักร้อน

            แล้วเรื่องแปลกก็เกิดกับฉันอีกครั้ง ฉันเห็นมีชายคนหนึ่งเดินมาทางนี้ แล้วตรงมาที่เปลของฉัน เพ่งมองก็เห็นว่าเป็นชายร่างสูง สวมชุดรัดรูปสีขาวอมเทาหรือสีเงินด้านๆ ซึ่งฉันรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

            …จากนั้น ชายคนนั้นก็เดินมาหยุดที่เปลฉันและถามว่า ที่นี่คือเมืองโพสิตาโนใช่ไหม?

            ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วก็คิดแวบหนึ่ง ชายคนนี้ฉันเคยพบกับเขามาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งนับว่านานมาก แต่น่าแปลก…ตอนนี้ฉันไม่ใช่สาวอายุสิบห้าอีกแล้ว…เพราะเวลาผ่านมาหลายปี

            แต่กับเขา หรือชายคนนี้ ดูไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย หน้าตา ท่าทางและรูปร่าง รวมถึงการแต่งตัวของเขาก็เหมือนเดิม ที่น่าตกใจกว่านั้น เขายังถามประโยคเดิมและส่งรูปถ่ายเดิมๆ มาให้ฉันดูอีกด้วย

            ถูกต้องแล้ว มันเป็นรูปสามรูป เหมือนที่เขาเคยเอามาให้ฉันดูเมื่อหลายปีก่อนหน้า เขาถามว่าฉันพอจะรู้จักสถานที่ไหนบ้างหรือไม่

            ฉันก็ยังคงรับรูปสามใบนั้นมาดู แต่น่าแปลก ฉันสังเกตเห็นในรูปว่ามันมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไปจากรูปที่ฉันเคยดูสมัยก่อน ตอนนี้หนึ่งในสามรูปมีบ้านจัดสรรติดเข้ามาในภาพด้วย

            บ้านจัดสรรที่ว่าเพิ่งสร้างเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง รูปของเขาที่เคยให้ฉันดูเมื่อหลายปีก่อน ไม่มีรูปที่มีบ้านจัดสรรเข้ามาในรูปด้วยแบบนี้

            ฉันเลยบอกเขาว่า บ้านจัดสรรในรูปนี้น่าจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านตรงนั้น อย่างไรคุณลองไปหาดู และเดินหาตามรูปก็น่าจะพบสิ่งที่คุณต้องการ เขาขอบคุณ รับรูปคืนแล้วเดินตรงไปที่หมู่บ้านนั้นทันที

            ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าตา รูปร่าง และท่าทางของเขาไม่ได้ดูผิดแปลกแตกต่างไปจากเมื่อหลายปีก่อนเลย ฉันมีอายุมากขึ้น อย่างน้อยห้าถึงเจ็ดปี แต่เขาดูเหมือนเดิม

            เขาหายไปพักใหญ่ก็เดินกลับมา ในมือเขาถืออะไรบางอย่างมาด้วย เขาขอบคุณฉันเหมือนคราวก่อนแล้วเดินไปทางท้องทุ่งที่มีดงไม้ใหญ่นั้น

            ฉันเอง ทีแรกไม่ได้สนใจเรื่องของเขา แต่มันเอะใจที่เขาไม่ได้ดูแก่ขึ้นเลย หรือว่าจะเป็นคนละคนกัน…แต่ฉันก็ล้มเลิกความคิดนี้เพราะใครที่ไหนจะเหมือนกันได้ถึงขนาดนี้…ไม่น่าจะใช่ฝาแฝดอย่างแน่นอน

            คืนนั้นฉันสนใจมาก ว่าเขาเป็นใคร แต่ทว่าเรื่องนี้ก็อยู่ในหัวฉันไม่กี่วัน จากนั้นฉันก็ลืมมันอีก ลืมไปนานมากจนเวลาล่วงเลยมาอีกหลายปี

            เวลานี้ฉันแต่งงานแล้ว และมาปลูกบ้านใหม่ไม่ไกลจากบ้านเก่ามากนัก เวลานี้ท้องทุ่งก็ยังอยู่ สะพานปลา และเมืองท่าก็ยังอยู่ ความร่มรื่นยังคงอยู่ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ดูมีมากขึ้นคือนักท่องเที่ยว

            …ช่วงนี้ฉันมาเปิดร้านอาหารกับสามี และมีลูกสาวสองคน วันหนึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนจัดมาก ฉันและสามีพร้อมลูกๆ มาปิกนิกกันที่ริมท้องทุ่งที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นนั้น

            ขณะหนึ่ง ลูกสาวฉันก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งท่าทางแปลกๆ เดินตรงมาทางเรา ฉันมองตามที่ลูกสาวว่าก็เห็นชายคนหนึ่ง จากที่เห็นฉันนึกออกทันทีว่าคนคนนี้น่าจะเป็นใคร แล้วก็จริงตามนั้น เขาคือชายคนนั้นนั่นเอง

            น่าแปลกมาก เขายังเหมือนเดิมทุกอย่าง หน้าตาอ่อนเยาว์ ในขณะที่ฉันเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว เขาไม่เปลี่ยนไปเลย สวมชุดรัดรูปแบบชุดหมีสีขาวอมเทา หรือสีเงินด้าน หน้าตาเหมือนเดิมทุกอย่าง

            แน่นอน เขาก็เข้ามาถามเรื่องเดิมๆ กับรูปเดิมๆ คือรูปสามใบที่แปลกไปจากเดิม มันคือรูปเดิมแต่องค์ประกอบในรูปเปลี่ยนไปทั้งหมด

            สถานที่ต่างๆ ที่เขาเคยเอามาให้ดูนั้นมันหายไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงเค้าเดิมนิดหน่อย เห็นบ้านจัดสรร ท่าเรือ และถนนหนทางเข้ามาแทน แต่กระนั้นก็ยังพอจะดูออกว่าที่ไหนเป็นที่ไหน

            ฉันบอกเขาว่าสถานที่ทั้งสามที่นั้นคืออะไรและอยู่ที่ไหน ถึงตรงนี้ฉันสงสัยมาก เลยถามเขาไปตรงๆ ว่า คุณคือคนคนเดียวกันกับที่ฉันเคยพบเมื่อหลายปีก่อนรึเปล่า?

            เขาบอกว่าใช่ เขาเพียรมาถามคนที่นี่และพบว่าฉันเป็นเพียงคนเดียวที่พอจะสื่อสารกับเขาได้ เขาเลยมาถามกับฉันและเลือกเวลาที่ฉันจะมาที่นี่อีกครั้ง

            ฉันสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไร เขาบอกว่า ไม่ยากหรอก เขาอยากให้ใครรู้ก็รู้ อยากให้ใครเห็นก็เห็น เขาเพียรมาถามฉันคนเดียวเป็นเวลาถึงยี่สิบสองปี เพราะอยากจะรู้ว่าสิ่งปลูกสร้างของพวกเขานั้นมันอยู่ตำแหน่งไหนกันแน่

            ตอนนี้เขาทราบแล้ว และขอบคุณฉันอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไป เขาบอกว่าเขาคือผู้ที่เดินทางในกาลเวลา ฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่แก่ เพราะยี่สิบสองปีของฉันคือเมื่อวานสำหรับเขานั่นเอง

            แล้วเขาก็หายไปในกาลเวลา โดยฉันเดินตามไปดูว่าเขาไปยังที่ใด ฉันเห็นเขาเดินเข้าไปยังวงแสงสว่างแล้วหายไปในนั้น เขายังโบกมือให้ฉันด้วย น่าแปลกที่สามีและลูกๆ ของฉันจำเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่สามีและลูกๆ ของฉันก็พบเขาด้วยเช่นกัน

เรื่องโดย. ดิษฏึกษ์

ภาพโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •