นอกเหนือจากทะเลสาบโคโม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของแคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ท่ามกลางหุบเขาที่เขียวขจี มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อว่า สคิญาโนะ (Schignano) มีเทศกาลที่น่าสนใจและสื่อไปถึงวัฒนธรรมของคนในหมู่บ้านนั้นๆ ด้วยการที่คนในหมู่บ้านจะมีการเดินขบวนหน้ากากไม้ และการแสดงต่างๆ โดย ชื่อของเทศกาลนี้ถูกเรียกว่า เทศกาลหน้ากากไม้แห่งสคิญาโนะ หรือ Carnival of Schignano
สคิญาโนะ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างบริเอนโน และอาร์เจโญ ในจังหวัดโคโม และมีชื่อเสียงไปทั่วอิตาลีในงานคาร์นิวัล ที่จัดขึ้นตามพิธีกรรมโรมัน ซึ่งตรงกับวันเสาร์และวันอังคารของสัปดาห์แรกในเดือนมีนาคม
ความพิเศษที่ทำให้เทศกาลนี้ มีความน่าสนใจคือ หน้ากากไม้ (ไม้วอลนัท) ที่ทำขึ้นด้วยฝีมือของช่างท้องถิ่น ดังนั้น หน้ากากจึงดูไม่มีความทันสมัย หรือปราณีตมากนัก แต่ตัวหน้ากากกลับสะท้อนเอกลักษณ์ของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป
เทศกาลหน้ากากไม้ คือเทศกาลที่ชาวบ้านในท้องถิ่น ร่วมกันจัดขบวนตัวละครสวมหน้ากากต่าง ๆ เดินผ่านถนนรอบ ๆ หมู่บ้าน เพื่อไปแสดงที่จัตุรัสกลาง โดยการแสดงจะเล่าถึงวิถีชีวิต และสถานการณ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันของคนในหมู่บ้าน
โดยเทศกาลนี้ เป็นเทศกาลพื้นบ้านที่เล่าถึงความคิดถึง และความคาดหวังของหญิงในหมู่บ้าน ที่มีให้ชายที่ต้องออกไปทำงานต่างเมือง และแสดงถึงความเหลื่อมล้ำของคนในหมู่บ้าน สืบเนื่องจากสถานการณ์ทั่วไปในปัจจุบัน ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ทำหน้ากากไม้ แต่รายได้จากการทำหน้ากากไม้ไม่พอต่อการดำรงชีวิต ซึ่งทำให้ผู้ชายในหมู่บ้านต้องออกไปทำงานนอกเมือง
และในทุกๆ ปีในช่วงของเทศกาล เหล่าผู้ชายที่ออกไปทำงานจะต่างพากันกลับบ้าน แต่ทุกคนใช่ว่าจะสมหวังในเรื่องการงาน บางคนกลับมาพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางที่ว่างเปล่า แต่บางคนก็กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าที่มีความสวยงาม ร่างกายอุดมสมบูรณ์ซึ่งหมายถึงการที่ไปทำงานต่างเมืองประสบความสำเร็จ และในตัวของเทศกาลก็จะมีการเดินขบวนไปรอบหมู่บ้านและการแสดงต่างๆ
ที่เป็นจุดโดดเด่นในเทศกาลนี้ คือตรงกลางจัตุรัสของหมู่บ้าน จะมีการละเล่น หรือการหยอกล้อนักท่องเที่ยวที่เข้าชมเทศกาล และภาพต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมา สื่อถึงความเหลื่อมล้ำต่างๆ ชายและหญิงแต่งตัวจะเป็นอาชีพต่างๆ เช่น ชาวนา แม่ค้า พ่อค้า หลังจากการเดินขบวนของเทศกาลนี้ ก็จะมีการเลี้ยงสังสรรค์กันในหมู่บ้าน และในเวลา 23:30 น. จะมีการก่อกองไฟเพื่อแสดงถึงการจบลงของเทศกาล
ความเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลหน้ากาก ก็คือความแตกต่างระหว่าหน้ากากสองแบบ คือ หน้ากากสวยงาม ในภาษาท้องถิ่น“ i bei” ในภาษาอังกฤษ The beautiful และหน้ากากอัปลักษณ์ ในภาษาท้องถิ่น (i“ brut”) ในภาษาอังกฤษ The ugly และสำหรับตัวผู้เล่น หรือ ผู้ที่สวมใส่หน้ากาก จะรับบทเป็นตัวแทนของสองชนชั้นที่สุดคลาสสิกในสังคมทั่วไปคือ คนรวยและคนจน
ความสวยงามหรือที่เรียกว่า“ Mascarun” เป็นตัวละครที่น่าสนใจ ด้วยความต้องการของเทศกาลที่จะทำให้ตัวละครนี้เก่ง และแสดงถึงความมั่งคั่ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อเน้นถึงสถานะทางสังคมของพวกเขา พวกเขาจึงสวมสูทราคาแพงที่เย็บปักอย่างปราณีต มีลักษณะท้องที่โตเพื่อแสดงถึงความร่ำรวย มีอาหารการกินที่ดี ตกแต่งด้วยหมวกที่มีดอกไม้สีสันสดใส มีริบบิ้นที่ด้านหลัง มักจะถือร่มและพัดที่มีสีสันสดใส การมาถึงของพวกเขาจะมีเสียงเป็นตัวนำขบวนโดยการที่จะนำระฆังขนาดเล็ก 4 อันติดกับเข็มขัดด้วยเสียงที่ไพเราะและน่าฟัง
สำหรับหน้ากากอัปลักษณ์ เห็นได้ชัดว่าความน่าเกลียดตรงข้ามกับความสวยงามเสมอ ซึ่งตัวละครตัวนี้ก็มีความน่าสนใจและมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่น้อยนั้นคือ คนจนจะสวมใส่เสื้อผ้าสีโทนมืดและเก่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยากจนของคนในหมู่บ้าน โดยมักเป็นคนผิวดำซึ่งจะใส่หน้ากากสีดำแทนสีผิว เนื่องจากการที่ทำงานหนักท่ามกลางแสงแดด โดยหน้ากากมีลักษณะที่มีปากคดเคี้ยว ฟันที่หายไป จมูกที่บิดเบี้ยวและริ้วรอยตามใบหน้า พวกเขาจะมาพร้อมกับไม้กวาด ตะกร้าหรือกระเป๋าเดินทางใบเก่าของเหล่าผู้ชายที่ออกไปทำงานหาเงินต่างเมือง ซึ่งกลับมาพร้อมกับความว่างเปล่า
เทศกาลหน้ากากพื้นบ้านนี้ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเฉพาะในหมู่บ้านสคิญาโนะ ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ที่แสดงถึงทักษะของคนในหมู่บ้าน ซึ่งมีฝีมือในการทำหน้ากากไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ และเล่าถึงวิถีชีวิตในท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีทั้งคนจนถึงคนรวย และความเหลื่อมล้ำทางสังคม
โดยเรื่องราวของอาชีพต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำรงชีวิตนั้นถูกแสดงออกผ่านตัวละคร The beautiful และ The ugly ซึ่งการออกไปทำงานต่างเมือง แต่ละอาชีพย่อมได้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน และผู้คนเหล่านี้มักจะถูกคาดหวังจากคนที่บ้านที่เฝ้ารอการกลับมาของพวกเขาในทุก ๆ ปี
เรื่องโดย. ตะวัน สัญจร
ภาพโดย. www.carnevaledischignano.it, www.comolakesideblog.com, www.trentotoday.it, www.amavido.de