![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/10/บ้านนี้ผีดุ1-1-min.jpg)
ผมทำอาชีพค้าขาย คือตระเวนขายของตามตลาดนัด ครอบครัวผมมีด้วยกันสามคน คือผม เมียและลูกสาว ซึ่งลูกสาวมีอายุประมาณแปดขวบ ภายในหนึ่งอาทิตย์ เราจะไปขายตามนัดต่างๆ ซึ่งเมื่อก่อนเราต้องไปขายทุกวัน แต่ระยะหลังเหมือนเศรษฐกิจไม่ค่อยดี และมีโรคโควิด 19 ระบาดเกิดขึ้น ทางการจึงสั่งงดตลาดนัดไป เพื่อไม่ให้ผู้คนมาแออัด เป็นการป้องกันโรคที่อาจระบาดได้ ทำให้ผู้คนออกมาหาซื้อของน้อยลงและซื้อของที่จำเป็นจริงๆ จะเป็นอาหารการกินเสียมากกว่า และบางตลาดก็ปิดไปเสียดื้อๆ ผมลืมบอกไปว่าผมขายรองเท้าแตะ รองเท้ามือสอง ผมกับเมียเลยต้องหาตลาดนัดอื่น ที่อยู่ไกลจากที่เคยอยู่เดิม จำเป็นต้องตระเวนหาบ้านเช่าหลังใหม่ เพื่อย่นระยะในการเดินทางและจะได้ประหยัด
ขับรถหาอยู่สองวันก็เจอทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่ง ปิดประกาศบ้านให้เช่าราคาถูก ผมเลยโทรไปสอบถามเป็นเสียงผู้หญิงมีอายุรับสาย
“ฮัลโหล…คือผมเห็นป้ายประกาศให้เช่าบ้าน ไม่ทราบว่ายังว่างอยู่หรือเปล่าครับ”
“ยังว่างอยู่จ้ะ…คุณต้องการเช่าแน่นะ”
แล้วเราก็นัดเจอกันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งป้าแกอยู่ที่อื่นต้องเดินทางมา แกเป็นหญิงร่างท้วมวัยกลางคนที่ดูท่าทางใจดี แกพาเราเข้าไปดูในบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้นมีสองห้องนอน ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง ครัวต่อเติมแล้ว ลักษณะภายในบ้านยังดูใหม่และสนนราคาค่าเช่า แกเอาแค่สามพันบาทต่อเดือน และจ่ายมัดจำแค่เดือนเดียว ซึ่งมันถูกมาก ที่สำคัญมันอยู่ใกล้จุดที่จะขายของ ซึ่งที่เราเคยเช่ามันเดือนละห้าพันห้าร้อยบาท เป็นอะไรที่ถูกตรงตามความต้องการของเรา เลยตกลงทำสัญญาการเช่า อยู่ๆ ป้าแกบอกกับเราว่ามีข้อแม้สองอย่าง คือหนึ่ง ให้เรานอนในห้องด้านหน้าเท่านั้น ส่วนห้องด้านหลังใช้เก็บของได้ และสอง ทุกๆ วันโกนให้เอาเครื่องเซ่นใส่อาหารวางไว้ในห้องด้านหลังห้ามขาด ซึ่งเราก็สงสัยแกบอกว่า
“ที่บอกให้ทำอย่างนี้ เพราะคุณจะได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข เพราะที่นี่เจ้าที่แรงนะ ถ้าทำให้เขาก็จะให้ร่ำรวยค้าขายดี”
ผมก็เลยตกลง เออๆ ออๆ ไป แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ขนย้ายเข้ามาอยู่ ครอบครัวผมไม่มีสมบัติอะไรมากขนทีเดียวก็หมด คืนแรกของการนอนที่บ้านใหม่ก็ผ่านไปด้วยดี เพราะพวกเราจะนอนที่ห้องด้านหน้า ส่วนห้องด้านหลังก็จะใช้เก็บเสื้อผ้า จนเวลาล่วงเลยเข้าอยู่ได้ประมาณสักหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปทุกอย่างก็ปกติดี แต่เรื่องที่จะต้องเอากระทงเครื่องเซ่นไปวางที่ห้องด้านหลังเราไม่ได้ทำ คือไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้
แต่แล้ว จากนั้นเหตุการณ์ผิดปกติก็เกิดขึ้น คือลูกสาวจะละเมอลุกขึ้นมาร้องไห้ ตกใจกลัวกลางดึกในช่วงเวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่งติดๆ กันสองสามวัน เหมือนฝันร้าย เมียผมแกก็ปลอบลูกไป
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/10/bnpd1-min-399x532.jpg)
ผมลืมบอกไป ข้างบ้านผมทั้งสองข้างเป็นบ้านว่างที่ปิดไว้เฉยๆ ไม่มีคนอยู่ แต่มีถัดไปอีกสองสามหลัง ถึงมีคนอาศัยอยู่แต่ก็ไม่ได้พูดคุยยุ่งเกี่ยวกัน เย็นวันหนึ่ง ผมต้องไปขายของที่ตลาดนัดใกล้ๆ หมู่บ้าน เลยไปคนเดียวทิ้งลูกกับเมียไว้ที่บ้าน ลูกสาวผมเล่าว่า ขณะที่แม่ทำกับข้าวอยู่ในครัว เขานอนดูทีวีหางตาเห็นอะไรบางอย่างตรงบันได น้องเลยหันไปมองแล้วก็ตกใจ จนร้องออกมาเพราะลูกสาวผมบอกว่า เห็นเป็นผู้ชายห้อยหัวลงมาทางบันไดมามอง น้องกลัวตกใจเลยร้องขึ้นมา เมียผมรีบวิ่งออกมาดู ผู้ชายคนนั้นก็หายไป ลูกสาวผมเขาขวัญเสียมากและนี่เป็นการเริ่มต้นของทุกสิ่ง
หลังจากวันนั้น ลูกสาวผมจะไม่ยอมอยู่คนเดียว ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำหรือนอน จนผมเองรู้สึกรำคาญเพราะไม่เชื่อและไม่เคยเห็น หลังจากนั้นอีกวัน ลูกสาวพูดกับผมว่า
“พ่อ…หนูกลัว…แม่…บ้านเรามีผี หนูเห็น”
“ไม่มีหรอกหนู ดูหนังทีวีมากไป..เลยเอาไปฝัน”
“หนูไม่ได้ฝัน…หนูเห็นผู้ชายห้อยหัวมาที่บันไดสองครั้งแล้ว…หนูกลัวเขาเป็นผี..มันแลบลิ้นให้หนูด้วย”
พูดจบ ลูกสาวก็เอามือปิดตาแบบกลัว ผมกับเมียมองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไร ลูกสาวผมห้าขวบเองเขาคงไม่โกหก ผมเองก็เริ่มรู้สึก…พอตกกลางดึกคืนนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ ผมได้ยินเสียงคนเดินลง และเดินขึ้นบันไดเสียงเปิดประตูห้องที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งประตูมันก็จะอยู่ตรงข้ามกับห้องที่ผมนอน ตอนนั้นผมสะกิดเมีย
“เธอได้ยินอะไรไหม…มีขโมยเข้ามาแน่ๆ…”
ผมให้เมียเงียบๆไว้ ผมคว้าไม้คนละท่อนกับเมีย ที่เก็บไว้ในห้องสำหรับป้องกันตัว ค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกไปเปิดไฟ ลงไปดูข้างล่างดูในห้องด้านหลัง เรียกว่าหาทั่วบ้านไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ทุกอย่างเหมือนเดิม…ไม่มีขโมย คราวนี้เราสองคนเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆเพราะตั้งแต่คืนนั้นจะมีเสียงรื้อข้าวของ เสียงเดินขึ้นลงบันไดปึงปัง จนรู้สึกขนลุก ได้แต่นอนกันเงียบๆ ไว้เช้าค่อยมาคุยกัน
“พี่…ฉันว่าบ้านนี้มีอะไรแปลกๆนะ”
ผมพยายามไม่ให้เมียกลัวอีกคน
“ไม่มีอะไรหรอกอย่าคิดมาก ข้างบ้านมันว่างอาจจะมีใครเข้าไปก็ได้ เสียงมันเลยก้องๆ เหมือนที่บ้านเรา”
ผมไม่ได้แค่หลอกเมีย แต่ยังหลอกตัวเองด้วย คิดดูสิครับ ว่าเราย้ายเข้ามาอยู่ได้เพียงสองอาทิตย์เอง
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/10/bnpd2-min.jpg)
คืนที่หนักที่สุดก็มาถึง ขณะที่กำลังหลับ ผมฝันว่ามีผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างผอมสูง พยายามจับขาผมลาก ทั้งดึงทั้งลาก ผมดิ้นรนสู้แต่สู้ไม่ได้เขาลากผมไปจนได้…
พอรุ่งเช้า เมียมาเรียกว่าทำไมผมมานอนอยู่หน้าประตูห้อง เขาคิดว่าผมละเมอหรือดิ้น แล้วผมก็นึกได้ว่าผมฝันว่ามีคนมาลากผมออกไป ผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ไม่กล้าเล่าให้เมียฟัง ตอนนี้ผมเริ่มหวาดระแวง แต่พยายามข่มใจ
แล้วคืนต่อมา…ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ ผมว่าผมไม่ได้ฝัน…มีผู้ชายผอมๆ สูงเหมือนคนขี้ยาหัวกระเซิง…มันยกขาผมขึ้นทั้งสองข้าง ผมมองเห็นขาตัวเองลอยขึ้นจากพื้น ความรู้สึกต่อสู้กับตัวเองว่าเราฝันหรือเรื่องจริง เพราะผมไม่สามารถขัดขืนได้ มันทั้งดึงทั้งลากผมจวนจะออกหน้าประตู ผมพยายามส่งเสียงเรียกเมียให้ช่วย แต่ก็ร้องไม่ออกไม่มีเสียง แต่ผมกลับได้ยินเสียงไอ้ที่ลากขาผมอยู่มันพูดว่า
“ทำไมไม่ทำให้กูกิน…กูหิว…มึงอยากลองดีกับกูใช่ไหม”
ผมว่าผมกลัวจนสลบไปเลยมากกว่า เพราะมารู้สึกตัวตื่นอีกก็เพราะเมียผมมาปลุก
“พี่ทำไมมานอนหน้าประตูอีกแล้ว ละเมอบ่อยนะนี่”
ผมรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บ้านนี้มีผีแน่ ที่ลูกผมเห็นเสียงเดินเสียงค้นข้าวของตอนกลางคืน และที่พีคที่สุดผมโดนดึงขาลากออกไป เหมือนไล่ ผมรีบถามเมียทันทีว่า วันโกนวันไหน ซึ่งเป็นวันนี้พอดี ผมเลยรีบไปซื้ออาหารใส่กระทงเอาไปวางไว้ในห้องด้านหลัง ผมยังไม่อยากเล่าอะไรให้เมียฟังมาก เดี๋ยวจะอยู่กันไม่ได้เพราะตอนนี้เราไม่มีเงินพอที่จะไปหาที่อยู่ใหม่ ต้องอดทนเก็บกดความหวาดกลัวเอาไว้ เมียผมสงสัยที่ผมรีบลุกขึ้นมาทำอย่างที่ป้าเจ้าของบ้านบอก พอเมียถาม “มีอะไรหรือเปล่า…บอกหน่อย”
ผมแค่บอกว่า “เปล่าไม่มีอะไร แค่อยากทำอย่างที่ป้าเขาบอกไว้ไม่เสียหายอะไร”
ได้ผลดีเกินคาด เสียงที่เคยได้ยินกลางดึกไม่มี กลางคืนผมไม่ถูกลากขาอีก แต่ผมก็คิดนะว่าขอเวลาอีกหน่อยผมย้ายแน่ คงอยู่ไม่ไหว…จิตตกเปล่าๆ หลังจากนั้นทุกๆ วันโกน ผมกับเมียก็จะเอากระทงเครื่องเซ่นไปวางไว้ที่ห้องด้านหลังทุกครั้ง แล้วผมก็จะพูดดังๆ ว่า
“กินแล้วให้ร่ำรวย อย่ามากวนกันนะ ให้ขายของดีๆ แล้วจะทำให้ใหม่”
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/10/bnpd3-min-1020x720.jpg)
น่าแปลกนะครับ ของขายดีเกินคาด จนผมรู้สึกงงเรียกว่าวางหมด…และหมดในเวลาอันรวดเร็ว มีแต่คนมารุมซื้อ…ได้เงินเป็นกอบเป็นกำแถมยังถูกหวยอีกหลายหมื่น…หรือว่าผีจะให้โชควะ…ผมคิด ซึ่งมันผิดกันหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ผมก็คิดว่าเราจะมาเป็นทาสผีอยู่อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าวันไหนเราลืมไม่ได้หาให้เขากิน เขาต้องเล่นงานแน่ ผมอยู่จนครบสองเดือนเลยขอย้ายออก…ซึ่งป้าเจ้าของบ้านแกก็ทักท้วง
“คุณอยู่ก็ค้าขายดี จะย้ายไปทำไม อยู่ต่อไปเถอะนะ”
“ผมบอกป้าตามตรงก็ได้…ผมกลัวผี ที่ผมทนอยู่เพราะผมยังไม่มีเงินย้าย ถึงจะค้าขายดีแต่อยู่ด้วยความหวาดระแวงคงไม่ไหว ถ้าวันหนึ่งวันใดผมไม่อยู่ ติดธุระไม่ได้ให้อาหารหรือเครื่องเซ่น เขาก็จะเล่นงานครอบครัวผม…คราวนี้ป้าต้องเล่าให้ผมฟังแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
ป้าอึกอักๆ แล้วแกก็เหมือนยอมจำนนเล่าให้ฟังว่า
“บ้านหลังนี้ ป้าซื้อไว้แต่ป้าไม่ได้อยู่ มีบ้านอยู่ที่อื่นเลยให้หลานชายมาอยู่กับเมีย วันหนึ่งเขาขี่มอเตอร์ไซค์คว่ำเสียชีวิต เมียก็เลิกราไป ป้าสงสารเลยจุดธูปบอกวิญญาณเขาว่า อย่าไปเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีที่ไหนเลย ให้อยู่ที่บ้านนี่แหละ แล้ววันโกนวันพระจะเอาเครื่องเซ่นมาให้กิน เขาก็เลยอยู่ในห้องด้านหลัง ตอนมีชีวิตอยู่เขาเป็นคนดีนะ ป้ารักสงสารเขามาก เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กเหมือนลูก ป้าไม่มีลูกมีแต่เขา”
ผมถึงบางอ้อ อย่างนี้ต้องรีบย้ายหนีใหญ่ ไม่ใช่เจ้าที่แต่เป็นสัมภเวสีผีตายโหงนี่เอง…รีบย้ายออกแทบไม่ทัน ปิดตำนานคนกับผีของผมถึงจะให้โชคก็เถอะ ผมขอไปเสี่ยงชะตาชีวิตเอาข้างหน้าดีกว่า..แล้วถ้าเป็นคุณเจอแบบนี้จะเผ่นไหมครับ…นี่แหละเรื่องสยองขวัญของผม…บ้านนี้ผีดุ
ขออุทิศคุณงามความดีให้ดวงวิญญาณนี้ไปสู่ภพภูมิที่ดี
*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เรื่องโดย. กฤตยา อยู่ประเสริฐ
ภาพโดย. www.nytimes.com, stock.adobe.com, wallpaperaccess.com