8 กันยายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                ในเรื่องราวที่ผู้เขียนกล่าวมาเป็นเรื่องราวของพรายน้ำ หรือผีน้ำที่มีเพื่อนๆ คนใกล้ตัวได้พบได้เจอ ได้เห็นกันมา แล้วนำมาเล่าต่อๆ กัน

                ตอนนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องราวทำนองนั้น และมีคนนำเรื่องนี้มาเล่าให้ผู้เขียนฟังเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ที่นำเรื่องราวมาเล่าให้ผู้เขียนฟังในคราวนี้คือนายปูนั่นเอง

                …ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เมื่อคราวนายเอก เรน และแม็กกี้มาหาผู้เขียนก็ไม่พบนายปู เพราะก่อนหน้านี้ นายปูได้เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด คือไปทำงานที่เชียงใหม่สามสัปดาห์

                เขากลับมาวันที่หนึ่ง ก็พอดีวันนั้นผู้เขียนมีงานอีเวนต์ที่ห้างซีคอนสแควร์ ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันนานๆ หรือคุยกันยาวๆ เลย วันนั้นมีโอกาสแค่ทักทายกันและนายปูนำขนมมาฝากเท่านั้นเอง

                จากนั้นในอีกสองวันถัดมา นายปูก็เดินทางลงใต้ไปภูเก็ตอีกครั้ง ผมเคยถามเขาว่า เอ็งไปทำงานอะไรวะ เขาก็อธิบายว่า งานที่เขาทำคืองานขับรถ คือเพื่อนรุ่นพี่ของเขาเปิดบริษัทนี้ขึ้น

                บริษัทนี้ติดต่อรับงานกับทางราชการ เวลาจะมีประชุมหรือมีงานในส่วนที่ต้องมีการติดต่อใช้รถรับส่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ จากต่างประเทศที่เดินทางมาในการประชุม ก็จะต้องมีรถประจำตัว

                นายปูทำหน้าที่เป็นคนขับรถพวกนี้ และจะต้องสแตนบายด์ ตามติดเจ้าหน้าที่ของชาติต่างๆ ตลอดเวลา ตามแต่วาระที่เขามาประชุม หรือมาทำธุระในการทำงานในประเทศไทย

                นั่นคือเวลาที่เขาหายตัวไปหลายสัปดาห์ และจนเมื่อไม่นานมานี้นายปูก็กลับมา ผู้เขียนได้ยินเสียงเขาดังโหวกเหวกในราวตีสี่ แสดงว่าเขากลับมาถึงแล้ว

                ในตอนสายๆ ของวันนั้นเอง นายปูก็ระเห็จมาหาผู้เขียน เขาเอาสะตอและไข่เค็มมาฝากเพราะเห็นว่าผู้เขียนชอบทานนักหนา

                เราเจอกันก็คุยกันและทักทายด้วยเรื่องราวบ้าบอเฮฮาไร้สาระมโนสาเร่อยู่สักพักใหญ่ ผู้เขียนก็พาเขาขึ้นมานั่งที่ระเบียงชั้นสอง พลางยื่นจานขนมจันอับให้

                นายปูหยิบขนมเปี๊ยะไปชิ้นนึง พลางถามไส้อะไร? ผู้เขียนบอกไส้ถั่วกับโหงวยิ้ง เขาก็รับไปกัดคำหนึ่งแล้วทำหน้าเฉยๆ แปลกๆ ก่อนจะถามผู้เขียนว่า

                “พี่มดเชื่อเรื่องพญานาครึเปล่าครับ?” เขาว่าพลางมองหน้าผม ซึ่งผู้เขียนเองก็เลิกคิ้ว เพราะสงสัยว่าเขาถามแบบนี้ทำไม หรือแสดงว่าเขาคงไปพบเจออะไรเข้าอย่างแน่นอน

                “ไม่รู้ว่ะ ยังไม่เคยเจอด้วยตาตัวเอง เลยไม่ค่อยจะเชื่อมากนัก เอ็งถามทำไมวะ”

                ผู้เขียนย้อนถาม เพราะสงสัยว่าทำไมวันนี้นายปูมาแบบแปลกๆ ทุกวันต้องตลกโปกฮา วันนี้มาดนิ่งมาเชียว แสดงว่าเขาต้องไปพบเจอเรื่องอะไรมาอย่างแน่นอน

                “ก็ไม่มีอะไรหรอกพี่…” นายปูจะพูดเช่นนี้เสมอ แต่เพราะมันมีอะไรนี่แหละ เพราะถ้าไม่มีอะไรจริงๆ เขาก็จะไม่พูดแบบนี้อย่างแน่นอน

                “ตกลงมันมีอะไรวะ?” ผมถาม เพราะเรารู้กัน ถ้าเขาบอกว่าไม่มีอะไร แสดงว่ามันจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เขาเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว

                “…คือ ปูเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่รู้…เอาอย่างนี้ เดี๋ยวพี่ฟังแล้วลองคิดดูเองก็แล้วกัน ว่าถ้าเป็นเป็นพี่แล้ว พี่จะเชื่อเรื่องนี้หรือไม่ ยังไง”

                ว่าแล้วนายปูก็เล่าเรื่องแปลกของเขาให้ฟัง เขาบอกว่า “พี่รู้ใช่รึเปล่า ว่าช่วงที่ผ่านมาปูไปขับรถ” ผมพยักหน้า เขาเลยบอกว่า “พอกลับมาจากเชียงใหม่ที่เจอพี่ จากนั้นปูก็ลงไปภูเก็ต”

                …คืองานมันต่อเนื่องกันเลย เขาว่าอย่างนั้น… “ทีนี้วันแรกมันยังไม่มีอะไร แต่คืนนั้นน่ะสิพี่ คืออย่างนี้…”

                เขาบอกว่า เขาไปถึงภูเก็ตก็บ่ายเย็นค่ำแล้ว งานจะเริ่มพรุ่งนี้ ทางนั้นเลยพาไปที่พัก แล้วจะจัดการเตรียมรถอย่างไรก็คืนนี้ ซึ่งที่พักเราอยู่ที่แหลมพรหมเทพ

                …คือบ้านพักมันอยู่ที่นั่นเลย แล้วการประชุมมันก็มีขึ้นในโรงแรมใหญ่แถวนั้น คือเขามาประชุมติดต่อกันด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการจัดการขยะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมโดยใช้เทคโนโลยีอย่างใหม่

                นายปูบอกว่า คืนนั้นรถก็มา เขาต้องตรวจเช็กสภาพ รถมาตั้งแต่ยังไม่ทุ่ม เขาเป็นคนเก่งและเชี่ยวชาญเรื่องรถอย่างมาก ดังนั้นไม่นานเขาก็ทำทุกอย่างและเช็กความเรียบร้อยเสร็จทั้งหมด

                เขาเลยขอตัวไปหาอะไรกิน เพราะรถคันของปูเช็กเรียบร้อยแล้ว…เพื่อนอีกคนที่เช็กรถเสร็จใกล้ๆ กันก็เลยชวนกันออกมาหาอะไรกินก่อน

                เขาบอกว่า เขากับเพื่อนอีกคนไปหาที่นั่งที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง แล้วก็สั่งอาหารมาทาน ของเขาสั่งพวกอาหารทะเลมานิดหน่อย ทานไปจนเสร็จก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ร้านก่อนเพราะไม่มีคนเลย

                …ร้านอาหารที่ว่ามันอยู่ติดริมทะเล พอหัวน้ำขึ้น น้ำทะเลหนุน น้ำทะเลมันก็ค่อยๆ เริ่มเขยิบขึ้นมาตามชายหาดเรื่อยๆ ไม่นานนัก น้ำทะเลก็ขึ้นมาเลยหาดแล้ว

                เขาบอกว่า หน้าร้านที่ติดทะเลนี้มองไปเห็นดงไม้ตกแต่ง มีต้นมะพร้าวริมหาดเรียงรายไปจนสุดลูกหูลูกตา มีก้อนหินใหญ่เป็นโขดหินริมทะเลอยู่หลายก้อน

                เขานั่งเล่นโทรศัพท์ไป ก็ยังมีลมเย็นพัดมาถูกตัวบ้างในบางเวลา เวลานี้ลูกค้าหลายคนออกจากร้านไปแล้ว ปูเองก็กะว่าจะให้เขาเก็บตังค์อยู่นี่แหละ

                พอเรียกคิดเงิน และขณะรอตังค์ทอนนั้น จู่ๆ ปูก็ได้ยินเสียงแปลกๆ อะไรบางอย่างดังขึ้น เสียงที่ว่านั้นดังขึ้นมาจากโขดหินที่อยู่ห่างจากร้านไปในราว 20 เมตร

                พอรับตังค์ทอนมาแล้ว ปูคิดว่าจะเดินไปดูโขดหินที่ว่านั้นสักหน่อย เพราะอยู่ดีๆ ปูก็หูแว่วขึ้นมาเฉยๆ ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้ดังขึ้นมาจากตรงนั้น

                นายปูบอกว่า…เขาเลยเก็บข้าวของเดินออกจากร้าน ทำทีจะกลับบ้าน แต่พอถึงตรงทางแยก เขาก็กลับเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อจะได้ไปดูว่า..แท้ที่จริงแล้วต้นเสียงประหลาดที่ว่านี้เกิดจากอะไร

                นายปูบอกว่าเขาเดินจ้ำๆ จากร้านไปโขดหินซึ่งก็ไกลเอาเรื่อง แต่พอเขาเดินไปจนถึงโขดหินก้อนใหญ่นั้น ก็ไม่เห็นจะปรากฏว่ามีอะไร

                หลังโขดหินนั้น ปูมองลงไปก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีอะไร เป็นแค่กองหินใหญ่บ้างเล็กบ้างซ้อนทับๆ กันลดหลั่นลงไปอีกมากมาย เรียงรายไปจนสุดชายหาดเลยทีเดียว

                ปูพยายามมอง มองแล้วมองอีกว่ามันมีอะไรอยู่ตรงนั้นไหม? แต่ด้วยความมันมืดมากก็เลยไม่เห็นอะไร แต่ทว่าเสียงแปลกๆ ที่ว่านั้นยังดังอยู่

                …คราวนี้ปูมองหาทันที ว่าตกลงมันเป็นเสียงของอะไรกันแน่ แต่กระนั้นก็มองไม่เห็นเลยว่าที่ชายหาดนั้นมีอะไร จะว่ามีคนรึก็ไม่มี จะว่ามีขอนไม้ หรือมีอะไรที่ชายหาดถัดๆ ไปก็ไม่มี ตกลงไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่

                ปูมองซ้ายมองขวาอยู่ครู่ใหญ่ มองไปทางนั้นที มองกลับมาทางนี้ที ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติแม้แต่อย่างเดียว โขดหินทอดยาวลงไป และบังส่วนหนึ่งของกองหินพวกนั้นไว้จนหมด

                …พอปูดูจนทั่ว ไม่เห็นอะไรก็จะกลับแล้ว เพราะลมเริ่มแรงเต็มที พัดขึ้นมาจากทะเลเสียงดังอู้ๆ วู้ๆ เลยทีเดียว แต่พอปูจะเดินและขยับตัวเท่านั้นเองก็เห็นอะไรบางอย่างตะคุ่มๆ อยู่

                อะไรบางอย่างที่ว่านั้นเคลื่อนไหวอยู่ตรงมุมหิน ปูชะโงกหน้าหวังจะมองภาพนั้นให้เห็นชัดๆ จะจะ แล้วก็พบว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้นจริงๆ

                แต่ตอนนั้นปูพยายามมองลงไป แต่มองเท่าไหร่ก็เห็นไม่ชัด จะว่าเป็นอะไร หรือเป็นใครเราก็ไม่รู้ชัด และอีกอย่างตรงนี้มันแทบไม่มีคน หรือมีใครอยู่แถวนี้เลย

                ถึงกระนั้นปูก็ยังมองอยู่ มันมีอะไรในเงามืดนั้น และมันพยายามจะออกไปจากตรงโขดหินนั้นให้ได้ ปูก็ยืนมองและพยายามเพ่งตากว้างๆ เสียดายที่วันนี้ปูไม่ได้เอากล้องส่องทางไกลหรืออะไรมาเลย

                …อะไรบางอย่างที่ว่านั้น ตอนนี้เริ่มขยับตัวมากขึ้นอีก จะว่าไปมันเหมือนงูอนาคอนด้า เหมือนงูขนาดใหญ่จริงๆ และยังไงก็ไม่ใช่คนแน่ๆ แต่ทว่าพอมองอีกที…ถ้ามันเป็นงูก็มีขนาดตัวใหญ่มากทีเดียว

                แต่แล้วมันก็ขยับอีกครั้ง คราวนี้เห็นชัดเลย งู…งูแน่นอน แต่ตัวใหญ่มากๆๆๆ มันพยายามชูคอขึ้นมาแล้วเลื้อยข้ามก้อนหินตรงนั้นไป พอมันเริ่มเลื้อย ปูก็เห็นเลยว่าขนาดตัวของมันไม่ธรรมดาเลย

                มันยาวใหญ่และใหญ่ยักษ์มากกว่างูเหลือมงูหลามทั่วๆ ไปราวสิบหรือยี่สิบเท่า ตอนมันยืดตัวขึ้น ปูเห็นชัดเลยว่ามันเป็นงูที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเอามากๆ เวลานี้พอมันชูหัวขึ้นมาแล้วก็เลื้อยออกไปตรงที่มีแสงชัดๆ

                ตอนนี้ ปูตกตะลึงเลยพี่ มันทั้งใหญ่มากและน่ากลัวมาก ปูแข็งใจดูเพราะอยากรู้ว่าคืองูอะไร ก็พบว่าตัวมันมีเกล็ดสีออกเขียวหรือน้ำเงิน เกล็ดแต่ละเกล็ดมีขนาดใหญ่มาก

                …อีกครั้งที่มันเลื้อยออกไปจากกองโขดหินนั้น แล้วพยายามเลื้อยลงไปในทะเล จากที่ปูมองอยู่ตรงนี้เห็นว่าขนาดตัวมันใหญ่โตมโหฬารมาก

                จังหวะหนึ่งทำให้ปูเห็นหงอนบนหัวของมันด้วย แต่เห็นจากทางด้านหลัง หงอนนั้นสีแดง เกล็ดตามตัวมันมีขนาดใหญ่พอสมควร เกล็ดดูเป็นมันเลื่อมสีเขียวออกน้ำเงิน หรือมีสีน้ำเงินแซมทั่วทั้งตัว

                …มันเลื้อยๆ วืดๆๆ ไม่กี่ครั้งก็ออกไปจากโขดหิน แล้วเลื้อยลงทะเลไปเลย ทั้งขนาดและน้ำหนักตัวคงมากเลยทำให้น้ำทะเลแตกดังซ่า จากนั้นมันเลื้อยลงทะเลไปจนหมดทั้งตัว

                ขนาดมันลงทะเลไปแล้ว เรายังเห็นตัวมันได้อยู่เพราะความยาวของมัน ทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นคลื่นๆ ซัดแรงไปหมด และยังเห็นหัวมันโผล่ขึ้นมาอยู่เลย ปูเห็นเรื่องนี้อยู่คนเดียวก็เลยไม่กล้าบอกใครว่าไปพบเห็นอะไร เพราะมันไม่น่าเชื่อว่าจะเจอ หรือจะเห็นอะไรแบบนั้น…จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัว น่าตื่นเต้นก็ด้วย…

                สุดท้ายปูก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตกลงแล้ว ไอ้ที่เขาไปเห็นมามันคือตัวอะไรกันแน่ วันนั้นนายปูเล่าไว้เท่านั้นเอง

เรื่องและภาพประกอบโดย จุติ จันทร์คณา, Ai

ภาพปกโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •