เรื่องที่ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังนั้น ท่านก็อย่าเพิ่งเชื่อไปทั้งหมดว่าเป็นเรื่องจริง เพราะสมัยนี้อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ที่ไม่จริงก็ทำให้เป็นจริงได้
อยู่ที่เรานี่แหละว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือมีเหตุผลคัดค้านความน่าเชื่อว่าอย่างไร บางครั้งการมีสติ ไม่หลงไปกับคำพูดต่างๆ หรือคำหว่านล้อมต่างๆ ก็นับเป็นเรื่องที่ดี
บรรดาเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและเหลือเชื่ออยู่อีกมาก หลายครั้งที่การบันทึกเรื่องราวเอาไว้ก็ไม่ช่วยให้คนทั่วไปเชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่อย่างไร
แต่ในทางกลับกัน ก็มีเรื่องอีกมากที่เป็นเรื่องแปลกเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ผู้คนต่างก็ล้วนเชื่อถือ แม้จะเพียงแค่รับฟัง และไม่ได้พบเห็นด้วยตาตัวเองก็ตาม
ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมิติของเวลา หรือห้วงเวลาที่พลิกผันด้วยแล้ว ความน่าเชื่อถือและเรื่องราวที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้เรื่องราวเหล่านี้ดูน่าเชื่อถือยากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังเรื่องของ มร.ฮัน จอร์แดน ที่ประสบพบมากับตัวเองและบันทึกเรื่องนี้ไว้ภายใต้ชื่อเรื่องว่า ผู้หญิง 24.00 น.
เรื่องที่ว่าเกิดขึ้นที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศสวีเดน คือเมืองสมอลันด์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของสวีเดน เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และความเขียวขจี
มีทะเลสาบสีฟ้า เนินเขาเต็มไปด้วยสัตว์ และทุ่งดอกไม้ เป็นเมืองที่สงบเงียบ เหมาะกับการดื่มด่ำธรรมชาติ รวมไปถึงแก่การมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
ในเมืองสมอลันด์ มีหมู่บ้านอากุนนาริดที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ MOCKELN ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในสมอลันด์
ซึ่งที่นี่เอง ที่มร.ฮัน มาเที่ยวพักผ่อนและพักร้อน มร.ฮันเป็นผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติบริสุทธิ์อย่างมาก ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นที่เหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับเขาอย่างที่สุด
แต่ทว่า ที่นี่เองก็เป็นที่ที่เขาได้พบเรื่องแปลกประหลาด จากนั้นมันก็ติดตามตัวเขาไปตลอด โดยมีครั้งแรกที่เริ่มขึ้นจากที่นี่
มร.ฮัน เล่าถึงเรื่องในครั้งแรกของเขาที่สมอลันด์ว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติสมบูรณ์อย่างที่สุด
“มันสมบูรณ์มาก มองไปทางไหนก็พบแต่ทิวเขาและป่าสน ป่าเบญจพรรณมากมายไปหมด มีสัตว์ป่า และสัตว์ต่างๆ ในทุ่งหญ้ามากมาย นกร้องกันตลอดทั้งวัน และอากาศดีอย่างยิ่ง
ผมพักที่โรงแรมเล็กๆ ที่มีชื่อแห่งหนึ่งในอากุนนาริด แต่นามของโรงแรมขอไม่เปิดเผย ผมได้พักห้องชั้นสอง ระเบียงริมสุด และเป็นด้านที่อยู่หลังโรงแรมพอดี วิวสวยงามมาก
ผมไปเที่ยวพักผ่อน และทานอาหารอร่อย กลับมาที่โรงแรมในเวลา 17.00 น. จากนั้นในเวลา 19.00 น. ผมก็ลงมาทานอาหารเย็นกับทางโรงแรม แล้วก็ออกไปเดินเล่นในสวน
สวนหลังโรงแรมสวยงามมาก ที่นั่นมีแขกที่มาพักนั่งคุยกันอยู่หลายคน มีบางคู่ที่เพิ่งแต่งงานใหม่และมาฮันนีมูนที่นี่ด้วย และผมก็อวยพรเขาอย่างชื่นมื่น
ครั้นเวลา 21.00 น. ผมก็ขึ้นห้องพัก นั่งฟังเสียงธรรมชาติในเวลาสงัด เสียงลมพัดชายเขา และเสียงดังของป่าสนยังดังแว่ว มันทั้งวังเวงและเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก ผมชื่นชอบบรรยากาศแบบนี้
ผมอาบน้ำแล้วออกมานั่งพักอีกครู่หนึ่ง เสียงแมลงกลางคืนดังระงมไปหมด มันน่าฟังเหลือเกินกับเสียงดนตรีธรรมชาติที่กำลังกล่อมบรรเลงอยู่ในขณะนี้
ผมนั่งจมอยู่กับเสียงธรรมชาติ จนได้เวลาดึกพอสมควรก็เข้าห้องนอน และปิดประตูที่ระเบียง ปิดหน้าต่างมุ้งลวด ที่นี่ไม่มียุงและแมลงรบกวน เพราะอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
ผมนอนหลับไป หรืออย่างไรนี่แหละ มารู้สึกตัวก็ตอนเวลา 24.00 น. เสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ของทางโรงแรมที่ตั้งไว้เชิงบันไดตีบอกเวลาดังเหง่งหง่าง
…ผมรู้สึกเหมือนมีคนนอนเบียดก็ขยับตัว และพบว่ามีสุภาพสตรีคนหนึ่งมานอนอยู่ข้างๆ ผม ทีแรกผมตกใจมาก เพราะคิดว่าเธอเป็นปีศาจหรือวิญญาณร้าย
แต่ไม่ใช่ เธอไม่ใช่อย่างนั้น เธอไม่ใช่ปีศาจหรือวิญญาณ เพราะเธอมีตัวตน มีเนื้อหนังสามารถจับต้องได้ พอผมลุกขึ้น เธอเองก็สะลึมสะลือลุกขึ้นด้วย
เธอถามผมว่า คุณลุกขึ้นทำไม มีอะไร…ผมก็บอกเธอไปว่า คุณเข้ามานอนที่ห้องผม เธอมองหน้าผม และหัวเราะเบาๆ พร้อมกับบอกว่า คุณเป็นอะไรไปคะ ฮัน นี่ฉัน เบธ ภรรยาคุณนะ
ว่าแล้วเธอก็ลงนอนต่อ โดยผมก็งุนงงมาก นี่มันอะไรกัน? เธอเป็นใคร? เข้ามาในห้องผมได้อย่างไร? แล้วยังมาบอกว่าเป็นภรรยาผมเสียอีก ทั้งๆ ที่เวลานั้นผมยังไม่ได้แต่งงานแท้ๆ
ผมเลยปลุกเธอให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วคุยกันอย่างตั้งใจ ผมเพิ่งเห็นตอนนี้เองว่า เธอเป็นผู้หญิงสาวที่สวยมาก หุ่นดีมีทรวดทรง ใส่ชุดบางเบาเหมือนชุดนอน
ผมถามเธอและบอกเล่าทุกอย่าง เธอตั้งใจฟัง เหมือนงุนงงกับผม ก่อนจะเข้ามาที่ตัวผมแล้วขอดูหน้าอกด้านซ้ายของผม เธอบอกว่า ถ้าเป็นฮัน จะมีรอยสัก
ผมก็ว่า ผมชื่อฮัน แต่ผมไม่มีรอยสัก พอผมเปิดเสื้อให้เธอดู เธอเห็นว่าผมไม่มีรอยสัก เธอก็ตกใจมาก แล้วบอกว่า แล้วฮันสามีฉันหายไปไหน?
ผมเลยเล่าว่าผมมาพักที่นี่ได้อย่างไร มาทำอะไร เป็นคนที่ไหน ปรากฏว่าเรื่องของผมแทบจะเหมือนกับสามีของเธอทุกอย่าง แต่เธอไม่รู้ว่าสามีของเธอหายไปไหน
ผมเลยว่าเอาอย่างนี้ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แล้วผมก็ง่วงมาก ถ้าคุณไว้ใจผมก็นอนลงเสียก่อน พักเรื่องราวทุกอย่างเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาคิดหาทางแก้ไขกันใหม่
เพราะตอนนี้ ถึงจะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ด้วยเป็นเวลาลางคืน และจะออกไปไหนก็ไม่สะดวก สู้รอให้สว่างก่อนจะดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาคิดหาทางกัน
แต่ลึกๆ ผมกลับคิดว่า เธอน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวในโรงแรมนี้ แต่ดื่มหนักมาก สติไม่อยู่กับตัว เธอคงมึนมากและจำอะไรไม่ได้ เลยมานอนที่ห้องผม
เธอเห็นด้วย เพราะดูเธอจะเมาและงุนงงมาก พอผมล้มตัวลงนอน เธอก็นอนด้วย เราก็เอ่ย ราตรีสวัสดิ์แก่กัน แล้วผมก็หลับไป
ตื่นมาตอนเช้าเธอหายตัวไปแล้ว หายไปอย่างไร้ร่องรอย ถามคนในโรงแรมก็ไม่มีใครรู้จักเธอสักคน แต่ทว่า พอตกค่ำคืนนั้น ในเวลา 24.00 น. เธอก็มาปรากฏตัวอีกครั้ง
คราวนี้ผมเห็นการมาของเธอ เธอมาปรากฏกลางแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นกลางห้องแล้วเธอก็ยืนงุนงงอยู่ในแสงนั้น เธอเห็นผมก็กล่าวว่า นั่นฮันรึเปล่า ผมว่าใช่ แต่ไม่ใช่ฮันสามีคุณ
เธอร้องไห้และบอกว่า เกิดอะไรขึ้นกับฉันนี่ ทำไมฉันกลับไปที่นั่นแล้วก็ถูกส่งมาที่นี่อีก คืนนั้นผมปลอบโยนเธอและนั่งคุยกันจนสว่าง
ร่างของเธอจางหายไปตอน 05.00 น. มันเป็นแสงสว่างเรืองและเธอก็หายไปในแสงสว่างนั้น เรื่องนี้ผมพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เลยไม่เล่าให้ใครฟัง
แต่ทว่าในอีกสองวันจากนั้น เธอก็ไม่มาปรากฏร่างอีก จนผมกลับจากสมอลันด์มาที่อังกฤษ และมาที่ห้องพักของตัวเอง เบธหายตัวไปตั้งแต่นั้น ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย
จนเวลาล่วงมาอีกสองปี คืนหนึ่งกลางดึกก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นกลางห้องผม แล้วผมก็เห็นเบธอยู่ในนั้น เธอบอกว่า เธอตามหาผมมานานมาก พอเธอรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ก็เลยตามมา
เธอว่าเวลานี้เธอเลิกกับสามีเธอแล้ว และจะขออยู่กับผมแทน ผมก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอก็เล่าทุกอย่างให้ผมฟัง แล้วจากคืนนั้นไปอีกสามคืน เธอก็ปรากฏร่างในห้องผมทุกคืน
เรามีอะไรกันในครั้งที่สี่ แล้วจากนั้นเธอก็หายไปอีกหลายสัปดาห์โดยไม่ปรากฏร่างออกมาในเวลา 24.00 น. อีกเลย จนเวลาผ่านไปอีกหกเดือน
คราวนี้เธอมาปรากฏร่างอีกครั้ง เวลานี้เธอก็ตั้งครรภ์แล้วด้วย เธอว่าเธอตั้งครรภ์กับผม ผมเองก็งุนงงมาก แล้วผมจะรับเธอเป็นภรรยาได้อย่างไร ในเมื่อเธอมาๆ หายๆ อยู่แบบนี้
เธอไม่ใช่ผี ไม่ใช่ปีศาจ หรือวิญญาณอะไร แต่เธอคงจะอยู่ในอีกมิติหนึ่งที่ผมไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเธอไว้ได้ และเธอจะมาปรากฏตัวได้เฉพาะเวลา 24.00 น. เท่านั้น
เธอจะอยู่คงสภาพอย่างนั้นได้จนถึงเวลา 05.00 น. ของอีกวันหนึ่งก่อนที่พระอาทิตย์ขึ้น เธอบอกว่าแสงอาทิตย์ที่นี่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายของเธอ
ครรภ์ของเธอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เราติดต่อกันมาระยะหนึ่ง แล้วอีกครั้งที่เธอหายไปเป็นเวลาถึงสองเดือน จากนั้นเธอก็มาปรากฏร่างอีกครั้ง โดยคราวนี้เธอมีบุตรมาด้วย
ลูกของเธอกับผมเป็นผู้หญิงน่ารัก และเธอโตไวมาก เพียงไม่กี่เดือนเธอก็มีอายุเหมือนเด็กอายุสักสองขวบแล้ว น่าแปลกมากทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปไม่เท่าไร”
มร.ฮัน หมายเหตุไว้ในบันทึกว่า หากเขาหายตัวไปเฉยๆ ก็แสดงว่าเขาคงจะตามภรรยาและบุตรสาวของเขาเข้าไปอยู่ในมิตินั้นแล้วไม่กลับออกมาอีก เพราะตลอดเวลา เขาไม่ยอมรับเธอและไม่ได้ตามเข้าไป เขาเชื่อว่าหากเขาตามเธอเข้าไป มันก็คงจะอยู่ด้วยกันได้ และไม่มาในลักษณะมาๆ หายๆ แบบนี้….จากนั้นอีก 3 เดือน…มร.ฮันก็หายตัวไปจนทุกวันนี้
เรื่องโดย. ดิษฏึกษ์
ภาพโดย. Ai