27 กรกฎาคม 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

            แนนซี่ ไลเดอร์ คือบุคคลคนแรกที่เอ่ยถึงดาวนิบิรุ และเธอทำนายว่าดาวเคราะห์ดวงนี้แหละที่จะพุ่งมาชนโลกจนแหลกสลายในปี ค.ศ.2003

            เรื่องนี้เล่นเอาบรรดานักดาราศาสตร์ต่างงุนงงไปตามกัน เพราะชื่อนิบิรุนั้นไม่เคยมีในระบบสุริยะ และไม่ใช่ดาวหางด้วย โอกาสที่ดาวเคราะห์จะผ่านเข้าไปในระบบใดระบบหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากดาวเคราะห์ทุกดวงจะมีวงโคจรที่แน่นอน ไม่วิ่งไปเรื่อยเปื่อย

            แต่ไลเดอร์ก็บอกว่าดาวดวงนี้มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าแพลนเนต เอ็กซ์ มันจะมีวงโคจรตัดผ่านเข้ามาในระบบสุริยะในทุก 3,600 ปี และเส้นทางโคจรของมันจะเฉียดเข้ามาใกล้โลกมาก จนอาจชนเข้ากับโลกอย่างจัง และนั่นคือวาระสุดท้ายของมนุษยชาติ!

            เรื่องนี้มีผู้เชื่อถือกันมาก ทำให้ไลเดอร์มีสาวกที่ติดตามทฤษฎีของเธอเป็นจำนวนมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือเดวิด มีเด (David Meade)

            เดวิด มีเด ไม่ใช่ชื่อจริง แต่เป็นนามปากกาของใครสักคนที่ไม่มีคนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา รู้เพียงว่าเขาเป็นคนมีความรู้ จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยหลุยส์เวล มีผลงานการเขียนหนังสือและวิจัยไม่น้อยกว่า 12 เล่ม แต่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเขาจนกระทั่งบัดนี้ (ทั้งที่จริงเจ้าของโรงพิมพ์น่าจะรู้ แต่คงจะมีการปกปิดเอาไว้ ใครต่อใครจึงรู้แค่นามปากกาของเขาเท่านั้น)

            มีเดจบทางด้านดาราศาสตร์มา จึงรู้จักดวงดาวต่างๆ มากมายในจักรวาล และเขาก็ศึกษาในเรื่องวันสิ้นโลกด้วย ดังนั้นพอได้ติดตามเว็บของแนนซี่จึงมีความศรัทธาในตัวผู้หญิงคนนี้อย่างที่สุด โดยเฉพาะเรื่องที่แนนซี่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้นั้น ทำให้มีเดเชื่อว่าเธอสามารถล่วงรู้เรื่องราวในอนาคตข้างหน้าได้ก่อนคนอื่น จึงได้เข้าไปเป็นสาวก (ปัจจุบันน่าจะเรียกว่าแฟนคลับ) ของเธอ และได้ติดตามเรื่องดาวนิบิรุตลอดมา เพราะเชื่อว่าในวันหนึ่งข้างหน้า ดาวนิบิรุต้องพุ่งมาชนโลกอย่างแน่นอน

            ตอนนั้นแนนซี ไลเดอร์ทำนายว่า…

            ดาวนิบิรุจะพุ่งมาชนโลกในปี ค.ศ.2003 พวกที่มีความเชื่อเรื่องนี้ต่างเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก บางคนหนีไปอยู่ในถ้ำลึกกลางภูเขา เพราะคิดว่าน่าจะพอเอาชีวิตรอดได้ บางคนสร้างห้องใต้ดินที่มีผนังหนาพอที่จะป้องกันแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินได้ ในขณะบางคนสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าเพื่อให้ปกปักรักษา ในขณะบางคนหวาดกลัวถึงขั้นเตรียมตัวฆ่าตัวตาย เพื่อจะได้พ้นๆ ไปจากความหายนะของโลก

            ตอนนั้นมีผู้คนเชื่อถือในเรื่องของดาวนิบิรุกันมาก นักดาราศาสตร์พากันส่องกล้องค้นหาเป็นการใหญ่เพื่อจะดูว่าดาวดวงนี้อยู่ตรงไหนของกาแลคซี แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น ที่รู้ก็มีเพียงข้อมูลจากแนนซี ไรเดอร์เท่านั้น ซึ่งเธอบอกว่ามนุษย์ต่างดาวในจักรวาลสื่อสารติดต่อกับเธอมาว่า ดาวนิบิรุจะโคจรเข้ามาในระบบสุริยะในปี ค.ศ.2003 และจะมาชนกับโลกที่โคจรเข้าไปจ๊ะกันอย่างพอดิบพอดีในวันที่ 27 พฤษภาคม ปีที่ว่านี้

            และหลังจากนั้นก็จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ขนาดใหญ่ ทำให้โลกสูญหายไปทั้งใบ และเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติก็จะหมดสิ้นในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เอง

            มีเดเองก็เชื่อมั่นในคำทำนายนี้ เขาได้กล่าวสนับสนุนในเรื่องของดาวนิบิรุนี้อย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ก็รอเวลาวันสิ้นโลกจะมาถึงอย่างสงบ จนกระทั่งวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2003

            ปรากฏว่าโลกก็ยังเป็นปกติเช่นเดิม

            เมื่อทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามคำทำนาย ไรเดอร์ก็ต้องออกมาแถลงว่าเรื่องนี้เกิดความผิดพลาดจากอะไร ส่วนมีเดก็ออกมาแสดงเหตุผลเหมือนกันว่าความผิดพลาดน่าจะเกิดจากการคำนวณผิด เพราะการคำนวณทางตัวเลขกับเหตุการณ์จริงนั้นย่อมมีความคลาดเคลื่อนกันอยู่ระดับหนึ่งเป็นเรื่องธรรมดา

            ในปัจจุบันเขาเรียกค่าใดๆ ก็ต้องมีบวกลบระดับหนึ่ง ใช่ว่าจะตรงเป๊ะเลยทีเดียว เพราะการโคจรในระยะทางอันยาวไกลของดาวนิบิรุนั้น บางทีก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ เช่น ขณะโคจรมานั้นอาจมีกลุ่มอุกกาบาตลอยมาปะทะได้ ทำให้ช่วงเวลาโคจรอาจเกิดความชักช้าไป ดังนั้น ดาวนิบิรุพุ่งมาทางโลกแน่ๆ แต่อาจชักช้าไปบ้าง คือสรุปว่ายังไงโลกเราก็คงไม่พ้นจากความหายนะอย่างแน่นอน

            แต่จะช้าไปอีกกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปีคงไม่มีใครรู้ นอกจากจะคำนวณใหม่ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงที่สุดเท่านั้น

            แล้วมีเดก็คำนวณวันสิ้นโลกจากดาวนิบิรุด้วยตนเอง

            ผลออกมาปรากฏว่าเป็นวันที่ 23 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม ปี ค.ศ.2017

            ที่มีเดออกมาทำนายเป็นช่วงเวลา ก็เนื่องจากเหตุผลดังที่กล่าวไปแล้ว คือระยะเวลา 3,600 ปีที่เดินทางมานั้นมันก็ไม่เป๊ะๆ หรอก ต้องมีเวลาบวกลบระดับหนึ่ง เขาจึงทำนายว่าน่าจะอยู่ในช่วงเวลาระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม ซึ่งช่วงนี้จะมองเห็นดาวนิบิรุพุ่งเข้ามา และเป็นจังหวะที่โลกพุ่งเข้าหาเหมือนกัน ดาวทั้งสองจึงประสานงาอย่างจัง โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นเอาไว้ได้ และนั่นหรือคือวันตายของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

            คำทำนายนี้สร้างความหวาดกลัวกันมาก

            แล้วปี 2017 ก็มาถึง

            ปรากฏว่าไม่มีดวงดาวใดๆ พุ่งเข้ามาหาโลกเลย โลกเรายังคงอยู่อย่างสุขสบายมาจนกระทั่งวันนี้ คำทำนายเรื่องวันสิ้นโลกจึงยังไม่มีใครทำนายได้ถูกต้อง ก็ต้องรอกันไปว่าสักวันหนึ่งความหายนะจะมาถึงหรือไม่

            สำหรับดาวนิบิรุนั้น องค์การนาซ่าออกมาระบุว่าไม่น่าจะมีอยู่จริง แนนซี่ ไรเดอร์ได้ข้อมูลมาจากไหนก็ไม่รู้ หรือมนุษย์ต่างดาวจะบอกข้อมูลนี้จริงๆ ก็ไม่ทราบ เรื่องนี้จึงต้องฟังหูไว้หู ไม่ตกอยู่ในความประมาท

            ก็ต้องศึกษากันต่อไปว่าโลกจะแตกจริงหรือ และจากสาเหตุใด ฉบับหน้าจะหาข้อมูลดีๆ มาเล่าให้อ่านกันใหม่ครับผม


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •