![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/08/คาถาพลิกชีวิต1-1-min.jpg)
ผู้เขียนมีโอกาสรู้จักเพื่อนใหม่คนหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขอเรียกเธอว่าพี่ศรี ปัจจุบันพี่ศรีมีอายุ 55 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย โดยของที่เธอขายนั้นเป็นอาหารที่รับประทานเล่นๆ เช่น ทอดมัน เต้าหู้ทอด ประมาณนี้
ทว่าสองเดือนที่ผ่านมา จากที่โควิด-19 ได้แพร่ระบาด พี่ศรีจึงออกเร่ขายของตามบ้าน เนื่องจากตลาดนัดที่เธอค้าขายได้ปิดทุกจุด
ระหว่างนี้ฉันจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่ศรี ที่มักมานั่งพักเหนื่อยที่ใต้ร่มไม้ข้างบ้านฉัน ซึ่งเมื่อนั่งพิจารณาดูมือดูเท้าของพี่ศรีที่มีนิ้วสวยยาวรี จึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“ก่อนหน้าที่พี่ศรีจะมาขายของ พี่ศรีทำงานอะไรหรือคะ?”
เธอได้อึ้งอยู่พักใหญ่
“ที่บ้านฉันสมัยก่อนโน้นได้ค้าขายข้าวสาร มีโรงสีขนาดกลางเป็นของตัวเองที่มหาชัย” เธอพูดไปเรื่อยๆ เล่นเอาฉันสะดุ้ง
“จริงนะคุณ ฉันไม่ได้พูดเล่น”
จากนั้นพี่ศรีได้หยิบบัตรประชาชนของเธอออกจากกระเป๋าให้ฉันดู เมื่อดูนามสกุลแล้ว เป็นนามสกุลดังทีเดียว ส่วนภาพในบัตรประชาชนกับตัวจริงในปัจจุบันก็มีความละม้ายคล้ายคลึงกันทีเดียว เธอไม่ได้หลอกลวงฉันหรอก และในวันดังกล่าว วันที่พี่ศรีมานั่งหลบความร้อนที่ร้อนระอุในเดือนเมษายน เธอจึงเล่าย้อนอดีตถึงความหลัง ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าตามตลาดนัดเนื่องจาก
“ฉันถูกพี่ชายและน้องชายโกงด้วยกฎหมายจนหมดตัวค่ะ”
เธอปาดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าก่อนระบายเล่าถึงความหลัง
ครอบครัวฉันมีเตี่ย มีแม่ ส่วนลูกๆ นั้นมี 3 คน คือมีพี่ชาย มีฉันที่เป็นลูกคนกลาง และมีน้องชายอีกคนที่เป็นคนเล็ก ที่บ้านเราเตี่ยกับแม่ส่งเสียลูกให้เรียนทุกคนค่ะ ตัวฉันนั้นเรียนจบอาชีววิทยาลัยที่สมุทรสาคร เมื่อเรียนจบก็มาช่วยครอบครัวค้าขายข้าวสาร ต่างคนต่างมีร้านของตนดูแล แต่ต้องส่งเงินทุนให้กงสีเดือนละเท่าไรก็ว่าไป
หากชีวิตรักของฉันในช่วงที่ฉันมีอายุ 20-21 ปี ได้มีชาวจีนคนหนึ่งมาชอบฉัน เตี่ยแม่เค้าค้าขาย มีแผงขายของอยู่แถวเยาวราช เมื่อเราแต่งงานกันไม่เท่าไร โดยตัวสามีมาช่วยฉันค้าขายที่ร้าน…ทุกคืนเขาเป็นต้องออกจากบ้าน มารู้ภายหลังเขาไปหมกมุ่นอยู่ที่ท่าเรือ ที่นั่นมีโรงฝิ่นเก่าอยู่หนึ่งโรง ลูกหลานคนจีนรวยๆ จะไปฝังตัวกันที่นั่นอย่างเพลิดเพลิน ตี 3 ตี 4 เขาถึงกลับเข้าบ้าน ซึ่งตลาดมหาชัยใน 50 กว่าปีก่อนมันก็ไม่กว้างและก็ไม่แคบจนเกินไป
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/08/มหาชัยสมัยก่อน-min.jpg)
วันหนึ่ง เตี่ยและแม่เรียกฉันมาคุยถาม “อาเฉลิมอยู่บ้านทุกคืนไหม มีคนเห็นมันไปค้างที่โรงฝิ่นเป็นประจำ ใช่มันหรือไม่ ถ้าเป็นความจริง ขอให้เลิกกัน” เตี่ยบอกประมาณนี้ค่ะ
เมื่อฉันเก็บเรื่องทุกเรื่องมาเตือนสามี คำตอบที่ได้นั้นคือ
“เลิกก็เลิกสิ เตี่ยกับแม่เขาก็รู้เรื่องนี้” ฉันเสียใจ เพราะเพิ่งรู้ว่าตนเองนั้นถูกหลอก มาขอให้แต่งงานกับคนติดฝิ่น
ในส่วนเตี่ย แม่ของสามี ภายหลังเขาได้มาขอโทษ เพราะคิดว่าคุณเฉลิมเมื่อแต่งงานมีเมีย มีลูกคงเลิกเสเพลได้
วันที่ฉันตัดสินใจเลิกกับสามีก็มาถึง เขาเก็บแต่เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวแล้วจากไป ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทและแหวนเพชรหนึ่งวง เขาให้ฉัน แต่ไม่รู้ว่าสวรรค์เบื้องบนท่านแกล้งฉันรึเปล่า เพราะเมื่อเขาจากไปได้ไม่กี่วัน ฉันก็มีอาการแพ้ท้องค่ะ!
ยอมรับว่าในยุคสมัยโน้น การที่ลูกสาวบ้านไหนมีเรื่องราวภายในครอบครัวที่แย่ๆ ชาวบ้านก็จ้องจะนินทา ใช่ไหมคะ?”
ฉันพยักหน้าตอบรับ เข้าใจเธอ
“ในส่วนครอบครัว ตอนแรกทุกคนได้ให้อภัยต่อการผิดพลาด ใช้ความรักแทนการตัดสินใจโดยไม่ใช้สมองตัดสิน แต่ครั้นเมื่อฉันตั้งท้องนี่สิ แล้วผัวก็เพิ่งเลิกกัน ฉันต้องอยู่ช่วยงานหลังบ้านจนคลอดลูกนั่นล่ะ และก็ได้ลูกสาวให้พี่น้องประจานอีกว่า อีกหน่อยคงเหมือนแม่มัน!”
ซึ่งชีวิตฉันมาย่ำแย่เอาจริงๆ ก็ตอนที่แม่ตายค่ะ ครั้งที่เตี่ยตายนั้นไม่เท่าไร ฉันกับลูกยังได้อาศัยอยู่ตึก ได้กินดีอยู่ดี หากตอนปี พ.ศ. 50 ที่แม่ฉันเสีย ฉันกับลูกถูกไล่ออกจากบ้านอย่างหมูอย่างหมา…หากเคราะห์ยังดีที่ก่อนแม่ตาย แม่ให้แหวนเพชรฉันไว้ 2 วง และมีเงินสดอยู่ 2 แสน ซึ่งตอนนั้นยังเอ่ยกันแม่ว่า แม่นั้นให้ฉันมากไปไหม เพราะแหวนเพชรนั้นเป็นแหวนแต่งงานของเตี่ยกับแม่
ทว่าหลังจากพิธีศพผ่านไป ฉันกับลูกก็กินข้าวร่วมวงกับใครไม่ได้ ห้องนั่งเล่น ห้องดูทีวีก็เข้าไม่ได้ ส่วนลูกสาวนั้นก็เป็นโรคจิตอ่อนๆ มีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย ในเมื่อบ้านเคยอยู่มา 40 ปี แล้วอยู่ๆ อากู๋ไม่ให้เข้าๆ ออกๆ ให้อยู่แต่หลังบ้าน ท้ายที่สุดเมื่อฉันตามเฝ้าลูกที่โรงพยาบาลปากคลองสานทางโน้นจัดการฮุบหมดเลย เรียกว่าฮุบจนฉันไม่มีทางดิ้น ถ้าอยากได้เงินต้องไปหาทนายฟ้องร้องเอาเอง ทั้งนี้เนื่องจากเตี่ยได้ให้พี่ชายคนโตเป็นผู้จัดการมรดก ทุกอย่างอยู่ที่เขาค่ะ
ที่โรงพยาบาลปากคลองสาน ฉันได้เจอคุณพยาบาลที่ใจดีมีเมตตา เขาเล่าว่า เขามีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ต่างจังหวัด โดยซื้อทิ้งไว้ ไม่ได้ไปอยู่ และไม่ได้ให้เช่า ซึ่งเขาอยากให้ฉันไปอยู่ดูแลบ้าน หรือฉันจะค้าขาย เอาของทะเลทางมหาชัยไปขายก็ได้ เพราะละแวกนี้มีตลาดนัด 3-4 ตลาด ซึ่งมาทุกวันนี้ ฉันได้อาศัยอยู่บ้านคุณพยาบาลใจบุญมาจนทุกวันนี้ แต่จะว่าไปถึงฉันลำบาก แต่ฉันก็พอใช้ชีวิตอยู่รอดนะคะ” พี่ศรีพูดเล่าไปเรื่อยๆ
“เพราะทุกๆ เดือน ฉันจะทำพิธีเปิดแม่พระธรณีที่บ้าน เป็นการไหว้กลางแจ้งค่ะ โชคลาภมักเวียนมาไม่ขาดสาย” พี่ศรีเอ่ยถึงตอนนี้จนฉันเริ่มสนใจ
“อย่างช่วงโควิดกำลังแพร่ระบาด แต่ที่ตลาดสดมีเบอร์ทองขายจับกันทุก 10 วัน เชื่อหรือไม่คะว่าฉันเข้าทุกรอบ ได้รอบละ 1 สลึงบ้าง 2 สลึงบ้าง ส่วนคาถานี้พระที่มหาชัยท่านจดให้มาสวด ให้มาปฏิบัติตาม เมื่อตั้งไหว้ทุกเดือน ให้หมั่นสังเกตว่าโชคลาภจะเวียนมาเองค่ะ อะไรที่ไม่ได้ก็จะได้ค่ะ”
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/08/พิธีบูชาพระแม่ธรณี-เป็นเพียงรูปประกอบเรื่องเท่านั้น-min.jpg)
จากนั้นพี่ศรีได้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ดู ซึ่งจะขออธิบายให้ทราบดังนี้
ของที่เตรียมไหว้มีผลไม้ 5 อย่าง
ธูป 7 สี (ถ้าไม่มีใช้ธูปธรรมดา 21 ดอก)
น้ำชา 5 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
ดอกไม้ 7 สี ดอกอะไรก็ได้
จุดธูปแล้วหันหน้าไปทางทิศเหนือ
ตั้งนะโม 3 จบ
(บทสวด)
โอม ปฐวีคงคา อัคคี พาหู สักการะวันทนานัง
จะบุปผัง อาคะยัง มามิ สิระสา ขะมา มิหัง
สัพพะเทวานัง รุกขเทวดานัง ปัฐวี เทวา นะมามิ
(ข้าแต่พระแม่ธรณี เจ้าที่เจ้าทาง เทพยดาฟ้าดิน รุกขเทวดา อากาสะ เทวดา เทวดา คงคาสะ เทวดาพระภูมิเทวา เทวดาที่สถิตรักษาอยู่ ณ ยังบ้านเลขที่….. บัดนี้ข้าพเจ้าชื่อ…..นามสกุล…..ขอสักการะวันทาด้วยเครื่องสักการะ พิธีสังเวยทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อบอกกล่าวต่อพระนางธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระภูมิเทวา เจ้าที่เจ้าทางสถิตรักษาบ้านเรือนของข้าพเจ้า ขอให้พระองค์ช่วยเปิดทางแก่ข้าพเจ้า จงผ่านอุปสรรคต่างๆ และขอให้ที่ดินผืนนี้ จงอยู่คู่ข้าพเจ้าและครอบครัว จงช่วยเปิดทางทำมาหากิน โชคลาภ เงินทองให้แก่ข้าพเจ้า หากแม้ข้าพเจ้าทำผิดพลาดพลั้งไป ด้ายกาย วาจา ใจ ขอพระองค์จงโปรดงดโทษ งดภัย และอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้า ณ บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัวจงพ้นจากอุปสรรคโพยภัย ทุกข์เข็ญทั้งหลาย…จากร้ายให้กลายเป็นดี นับจากวินาทีนี้เป็นไปด้วยเทอญ) สาธุ สาธุ สาธุ
แล้วเอามือซ้ายแตะลงที่พระแม่ธรณี เอามาเจิมที่หน้าผากตนเอง เป็นอันเสร็จพิธี
วันนั้นฉันขอพี่ศรีคัดลอกใบโองการเอาไว้ คนเราไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ทั้งนี้พี่ศรีบอกให้ทำทุกครั้งที่เรามีโชค ทำบ่อยๆ รู้ไว้ไม่เสียหลาย
กระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา วันนั้นพี่ศรีไปขายของที่ตลาดนัด ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม การเดินทางของเธอคือขับรถกระบะไปคนเดียว เมื่อถึงตลาดนัดก็จัดแจงกางร่ม เตรียมตัวตั้งเตา หากแต่อยู่ๆ ก้อนเมฆได้บดบังปกคลุมพระอาทิตย์จนมืดมิด ซึ่งพี่ศรีเล่าว่าอีกไม่นานฝนต้องตก
![](https://renlub.com/wp-content/uploads/2021/08/เมฆฝนตั้งเค้า-min.jpg)
เธอจัดแจงเก็บร่ม เก็บกระทะ เก็บเตา พ่อค้าคนอื่นต่างทยอยกลับบ้าน ส่วนพี่ศรีนั้น ความที่เป็นคนบ้านไกล จึงได้แต่เดินลัดเลาะหาที่หลบฝน ซึ่งเธอเล่าว่า…ด้านหลังพระประธานของโบสถ์หลังเก่าพอมีที่ว่างเหลือเฟือ จึงถอยรถเข้าไปจอดและไม่ถึง 10 นาที ฝนได้เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
จากนั้นเธอได้ผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ได้ แต่มารู้สึกตัวอีกทีคือ 6 โมงเย็น (จากที่นอนไปในช่วงบ่าย 3 โมงเย็น) และเธอได้หลับฝันไปว่า ได้เห็นชายชราหน้าตาท่าทางใจดี เดินวนเวียนอยู่รอบรถเธอ
ครั้นเมื่อพี่ศรีลืมตาจะดู จะถามไถ่ คุณตาก็บอกเอ็งนอนไปเถอะ…ฉันจะดูแลรถให้ พูดคำเดียวอยู่แต่ประโยคนี้
กระทั่งก่อนคุณตากลับ ท่านได้ทุบท้ายรถดังโป๊กๆ จนพี่ศรีสะดุ้งตื่น ถึงรู้ว่าตนนั้นได้หลับฝันไป แต่เย็นวันนั้นก็ขับรถถึงบ้านในระยะทาง 60 กม. โดยสวัสดิภาพ ทั้งที่ฝนตกถนนลื่นตลอดทาง
กระทั่งถึงวันนี้ วันที่หวยออก 16 พฤษภาคม 64
ต้นเรื่องต้นทางที่ทำให้พี่ศรีถูกเลขท้ายสามตัวบนตรงๆ เนื่องจากทะเบียนรถของพี่ศรีคือ x579 โดยพี่ศรีถูกเลขนี้ 579 = 120×120 เพราะเนื่องจาก
“ในความฝันก่อนคุณตาท่านจะกลับ ท่านเดินวนรอบรถพี่ ทุบป้ายทะเบียนที่หน้ารถทุบที่หลังรถที แต่พี่ไม่ได้เล่าให้ใครฟังละเอียดนักค่ะ ก็ไม่คิดว่าจะโชคดีได้ขนาดนี้ นี่ตั้งใจว่าจะกลับไปแจกของฟรีที่ตลาดนัดในเขตวัดดังกล่าว พี่เชื่อว่าคุณตาคงเป็นเทวดามาโปรด เพราะตื่นขึ้นมา เราจดจำทุกอย่างได้สาธุเจ้าค่ะ…ลูกรอดตายไปอีกเดือน”
พี่ศรียกมือท่วมศีรษะ พร้อมกันนี้เธอบอกฉันว่า
“อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งขอให้คุณลองปฏิบัติ ตั้งไหว้ขอขมาแม่พระธรณี เราเกิดมาเหยียบย่ำท่านทุกวัน เมื่อทำแล้วจะรู้สึกได้ว่าชีวิตจะดีขึ้น ทำอะไรก็ราบรื่นค่ะ”
ฉันได้แต่กล่าว…สาธุ สาธุ สาธุ
การได้เกิดเป็นมนุษย์ถือเป็นบุญอันประเสริฐในขั้นหนึ่ง ซึ่งมีทางเลือกที่จะทำดีหลายอย่าง ทั้งทางธรรม และทางเทพ
ก็ขอฝากบทคาถานี้ไว้อีกหนึ่งทางในยามที่ข้าวยากหมากแพง โรคภัยไข้เจ็บแพร่ระบาด ขออนุโมทนาบุญแด่ท่านทั้งหลาย
*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เรื่องโดย. ปรัศนียา
ภาพโดย. สารานุกรมวัฒนธรรมไทย (ภาคกลาง), wallhere.com, 9hora.com, wallpapercave.com