31 ตุลาคม 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                โลกยุคปัจจุบัน การติดต่อสื่อสารแสนจะสะดวก มีโทรศัพท์มือถือ มีอินเทอร์เน็ตที่สามารถพูดคุยกันได้ทั่วทั้งโลก..มีเฟสบุ๊ก, ไลน์, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์ และแอปต่างๆ อีกมาก แถมสามารถเห็นหน้ากันได้ ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนขอให้มีอินเทอร์เน็ตไปถึง…ซึ่งผิดกับยุคก่อน นับเป็นการพัฒนาของมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม

                นี่เป็นจุดเริ่มต้นหลอนของเรื่องนี้….

                ตั้งแต่เรียนจบมาจนทำงานและมีครอบครัว บางครั้งเราลืมชีวิตส่วนตัวไปบ้างเหมือนกัน มานั่งทบทวนหวนคิดถึงบรรดาเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี แล้วคิดได้ว่าเราควรต้องคอยตามจากเพื่อนที่เหลือไม่กี่คนให้มารวมตัวกัน ฉันรีบโทรหานันท์กับแป๋วเพื่อนที่เหลืออยู่แค่สองคนของฉันทันที

                “ฮัลโหล นันท์…ฉันมีไอเดีย…แกพอจะเจอเพื่อนเราเก่าๆ มั่งเปล่าวะ”

                “ทำไมล่ะ…แกอยากเจอพวกมันเหรอ เลี้ยงลูกไปเถอะ”

                “ลูกก็ส่วนลูก เอาอย่างนี้เราไปตามหาเพื่อนๆ ให้มารวมตัวตั้งกลุ่มไลน์เฉพาะเอาไว้พูดคุยกัน ดีไหม”

                “เข้าท่า…ไปชวนไอ้แป๋วให้มันช่วยหา โอเคๆ”

                ในที่สุดความหวังก็ไม่ไกลเกินเอื้อม เรารวบรวมเพื่อนๆ มาได้เกือบสิบคนมีทั้งผู้หญิงผู้ชาย คราวนี้ก็ต่างคนต่างเมาท์กันสนั่น มันทำให้เราย้อนไปเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง ภาพสมัยเรียนไปซนกันที่ไหน ใครมีวีรกรรมอะไรงัดกันขึ้นมาพุดคุย ความสุขสนุกสนานกลับมาอีกครั้ง

                เช้าก็สวัสดี พอตกค่ำก็มากู๊ดไนต์กัน เพื่อนเริ่มทยอยมาเข้ากลุ่มกันเรื่อยๆ จนเพิ่มเป็นสิบกว่าคน หายไปบ้างมาคุยกันบ้าง แล้วแต่ว่าใครว่างมาอ่านเม้นต์ก็มาตอบกันไป

                แต่จะมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อมาลี สมัยเรียนพวกเราจะแซวเรียกชื่อเพื่อนว่า..หนูมาลี…แกจะมาสวัสดีกับกู๊ดไนต์ทุกวันไม่เคยขาด ยิ่งใกล้วันหวยออกหนูมาลีจะไล่ถามเพื่อนๆ ว่าใครมีเลขเด็ด ซึ่งเป็นอะไรที่หนูมาลีชอบมาก และแกก็มักจะมาบอกว่าถูกอยู่บ่อยๆ ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน

                “สมาชิกไปไหนหมด…วันนี้ใครมีเลขเด็ดจ๊ะ พรุ่งนี้หวยจะออกแล้วนะ เรามาวิเคราะห์กันหน่อย…ไอ้อ้อไปไหนวะ ไปหาหวยที่ไหนบอกด้วยเด้อค่ะเด้อ”

                “โหยหวนหาหวยแต่เช้าเลยนะหนูมาลี…ฮ่าๆๆ” ฉันแหย่เพื่อน

                “งวดที่แล้วไอ้อ้อมันไปขอที่ไหนนะ แม่นจริงๆ เข้าสามตัวเลย…แพทแกเล่นหรือเปล่า”

                “เปล่าน่ะสิ แต่งวดนี้ต้องตามหนูมาลีกะหนูอ้อแล้ว เห็นถูกกันมาหลายงวด โทรหามันเลยเผลอๆ ตอนนี้มันอยู่ตรงเจ้าพ่อเจ้าแม่แล้ว…ได้เรื่องแล้วมาลงในไลน์แล้วกัน ไปทำงานก่อน…บายเพื่อน”

                พวกเราก็พูดเล่นพูดคุยกันไปมา ผ่านไปเกือบปีทุกคนยังหมั่นแวะเวียนกันเข้ามาไม่ขาดสาย จนกระทั่งแป๋วมีความคิดว่าพวกเราควรนัดเจอกันสักครั้ง แต่ขอให้ทุกคนพร้อมและมีเวลาว่างที่ตรงกัน ซึ่งทุกคนรับปากแต่ยังหาเวลาที่พร้อมยังไม่ได้

                ส่วนกิจกรรมหาหวยก็ยังคงดำรงอยู่ทุกๆ สิบห้าวัน ที่หนูมาลีไม่เคยพลาดที่จะโทรหาเพื่อนคนนั้นคนนี้นอกจากคุยกันในไลน์แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

                จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนส่วนใหญ่พร้อมพบเจอกัน เราจัดแบบเรียบง่ายคือนัดกันแล้วจองร้านอาหารสักที่ ซึ่งก่อนวันงานต้องคอนเฟิร์มกันก่อน กับเพื่อนๆ ทุกคนติดต่อได้หมด แต่อยู่ๆ หนูมาลีหายไปจากหน้าไลน์ถึงสองวัน ฉันเลยโทรเข้าเบอร์มือถือ เสียงปลายสายดังอยู่ระยะหนึ่งก็มีคนรับเป็นเสียงผู้ชาย น่าจะเป็นลูกชายของหนูมาลี

                “ฮัลโหล…ขอสายหนู…เอ๊ย มาลีหน่อยจ้า”

                ทางนั้นฮัลโหลตอบแต่ก็นิ่งเงียบไปสักพัก

                “มาลีอยู่ไหมจ๊ะ ขอพูดสายหน่อยค่ะ”

                “ใครจะพูดด้วยครับ”

                “อ๋อ น้าแพทนะ เป็นเพื่อนมาลี ที่เราคุยไลน์กลุ่มกัน…เห็นมาลีหายไปสองวันไม่ได้เข้าไลน์ เลยจะถามว่าที่นัดกันกินเลี้ยงจะมาได้ไหม”

                “อะไรนะครับ…เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คือผมเป็นลูกชาย แล้วคุณแม่ก็ไม่อยู่แล้วนะครับ”

                “ลูกชายมาลีเหรอ คุณแม่ไปไหนล่ะ ไปต่างจังหวัดเหรอ มิน่าหายไปสองวัน ปกติแกจะมาคุยทุกวัน ยิ่งใกล้วันหวยออก…”

                “นี่ตลกหรือเปล่าครับ…แม่ผมเสียไปจะห้าเดือนแล้วนะครับ”

                “เอ๊ะ มาลีเดียวกันหรือเปล่า มาลีที่นามสกุล….นี่นะคะ”

                “ใช่ครับ คุณแม่ผมเอง ท่านเสียไปได้เกือบจะห้าเดือนแล้ว จะไปคุยไลน์ได้ยังไง…”

                “เป็นไปไม่ได้ พวกเราเป็นเพื่อนสมัยเรียน มารวมตัวเข้ากลุ่มไลน์ มาลีมาคุยทุกวันไม่เคยขาด เพิ่งหายไปได้สองวันเอง พอดีเพื่อนๆ คือพวกเราจะจัดเลี้ยงสังสรรค์กันเลยจะโทรมาถามว่ามาได้ไหม…ไม่มาก็ไม่เป็นไร อย่าถึงขนาดบอกเสียชีวิตเลยค่ะหนู”

                “ผมไม่ได้โกหก เรื่องไลน์กลุ่มผมเป็นคนทำให้คุณแม่เอง คุณแม่เสียแล้วจริงๆ ครับ ท่านติดโควิด ถ้าไม่เชื่อคุณน้าเปิดกล้องสิครับ ผมจะให้ดูอะไร”

                ฉันอึ้งแบบงงๆ แต่ก็เปิดกล้อง เห็นหน้าลูกชายของมาลีแล้วเขาก็แพลนกล้องไปที่รูปถ่ายมาลีที่ติดข้างฝาผนัง ในรูปมีตัวหนังสือเขียนว่า..ชาตะวันที่เท่าไหร่และมรณะวันที่เท่าไหร่…ซึ่งถ้านับมันก็ผ่านไปเกือบห้าเดือน

                “นี่ไงครับ ผมไม่ได้หลอก ว่าคุณแม่เสียไปแล้วจริงๆ”

                “น้าก็ไม่ได้หลอก มีหลักฐานว่าเราคุยกันในไลน์ทุกวัน แล้วบางทีแกก็ยังโทรไปหาเพื่อนๆ เรื่องหวย เพิ่งสองวันนี่เองที่หายไป…น้าเองก็สับสนไปหมด”

                “ครับ…ผมก็ไม่รู้ยังไงดี คุณแม่อาจผูกพันกับเพื่อนๆ แต่เราก็ไม่เคยเจอคุณแม่เลยนะครับ หลังจากที่ท่านเสียไป”

                โทรศัพท์วางสายไปนานแต่ฉันยังสับสน และรู้สึกกลัวขึ้นมาเลย พยายามตั้งสติ โทรหาเพื่อนๆ ประชุมสายกัน ฉันเล่าเรื่องราวที่ลูกชายเขาเล่าให้ฟังและได้เห็นกับตาตัวเองคือรูปภาพหน้าศพของหนูมาลี คนที่ร้อนรนและออกอาการหวาดกลัวมากที่สุดคืออ้อ

                “ทำไงดีวะ เมื่อวานแกเพิ่งโทรหาเลย ถามว่าได้เลขหรือยัง แกยังบอกของแกก็ได้มาแล้วเผื่อว่าเลขจะตรงกัน…จริงๆ ขนลุกไปหมดแล้ว”

                “นั่นสิ ลูกเขาไม่ได้โกหก แกเสียไปจะห้าเดือนแล้ว แล้วที่เข้ามาคุยมาสวัสดีล่ะคืออะไร”

                “หูยยย…แล้วถ้าคืนนี้แกโทรมาล่ะ เราจะทำยังไง…อ้อไม่ไหวนะ ขอบล็อกไลน์แกแล้วกัน”

                “คนอื่นว่าไง…มันเหลือเชื่อมากเลยนะ แกตายไปแล้วตั้งนานยังแวะเวียนมาคุยกับพวกเรา คงต้องพากันบล็อกทั้งหมดละ เผื่อแกเกิดทักมาอีกไม่ไหวนะ…ไม่รู้ยังเออ…แต่นี่รู้แล้ว…”

                “อย่างนี้เขาเรียกผีหลอกเป็นหมู่คณะหรือเปล่าวะ น่ากลัวมากเลย”

                ไอ้แป๋วโพล่งขึ้นมา เล่นเอาเสียวหน้าหลังไปตามๆ กัน

                ทุกคนกลายเป็นอยู่ในอาการหวาดผวาเพราะแกตายไปตั้งนาน ยังมาพูดคุยทักทายเพื่อนเหมือนปกติซึ่งเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก

                “แต่แกก็ทักหาไอ้โหน่งอยู่นะ มันบอก…แกบอกว่าแกหิวข้าวเมื่อหลายวันก่อน”

                “สรุปว่าพวกเราน่าจะไปทำบุญให้เขานะ ฉันคิดนะว่าเขาก็ดีใจที่ได้เจอเพื่อน แต่เวลาของเขามันหมดเร็ว เขาก็ยังอยากพูดคุยกับเพื่อนอยู่ แบบจิตสุดท้ายที่เพื่อนมารวมตัวกัน แต่คืนนี้เขาต้องโทรหาแกแน่ๆ นังอ้อ เรื่องหวยแกจะทำยังไง”

                “เฮ้ย…ไม่เอาสิ ฉันบล็อกเขาไปแล้วทั้งเบอร์ ทั้งไลน์ ไม่ไหวมั้ง…แกอย่าย้ำ”

                “แยกย้ายกันก่อน มีอะไรก็ไลน์มา…สวดมนต์ไหว้พระกันไว้ก่อน ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร พอรู้แล้วมันไม่ได้ว่ะ…หรือจะเป็นไปได้ไหมว่าลูกเขาเป็นคนเล่นไลน์เอง น่าคิดนะ คนตายไปแล้วจะมาเล่นได้จริงเหรอวะ”

                “ไม่น่า…ทีแรกเขายังเหมือนโกรธเลยที่โทรไปหาแม่เขา หาว่าเรามาล้อเล่น ไม่ใช่เขาจะทำเพื่ออะไร…เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้ไม่ใครก็ใคร…”

                การคุยจบลงด้วยความหวาดระแวงของทุกคน…แต่พอรุ่งเช้าเสียงโทรศัพท์ดังกระหึ่มระรัวๆ พอรับสายเสียงอ้อละล่ำละลักรีบพูด

                “แกๆ เมื่อคืนหนูมาลีมาหาฉัน…โอ๊ย น่ากลัว…”

                “แกเห็นเป็นตัวเลยเหรอ อย่างโหดนะนั่น”

                “เปล่า มาเข้าฝัน…ในฝันฉันก็รู้ไงว่าเขาตายแล้ว เขาต่อว่า…ว่าทุกคนคงกลัวเขาหมดแล้ว ไม่มีใครเป็นเพื่อนเขาแล้ว…เขายังบอกว่าเรื่องหวยเขามีเลข 823…เอามาฝาก แล้วเขายังบ๊ายบายด้วย เขาบอกไปก่อนนะ”

                “งั้นเอาเลขนี้แหละวะ ถ้าถูกก็พากันไปทำบุญใหญ่ๆ ให้หนูมาลีเลย”

                ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเลขนี้ออกเลขท้ายสามตัว ก็มีถูกกันบ้างไม่ถูกบ้าง เราก็เลยนัดกันไปทำบุญให้หนูมาลี และไม่ลืมที่จะบอกล่าวว่า ไปสู่ภพภูมิใหม่เถอะ ไม่ต้องห่วงเพื่อนๆ ไม่ต้องมาหาใครเลย…และนี่คือเรื่องราวหลอนๆ จากเพื่อนของเรา…หนูมาลี

                ท้ายนี้ต้องกล่าวลากันไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ในนิตยสารสุสานผีฉบับต่อไป ขอให้ทุกท่านโชคดีผีให้โชค…ร่ำรวยแข็งแรงนะคะ ด้วยรักจากใจจากเราชาวสุสานผี สวัสดีค่ะ

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เรื่องโดย. กฤตยา อยู่ประเสริฐ

ภาพโดย. Ai


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง