20 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                น้าแดงเป็นน้องสาวคนสุดท้องของแม่ผม แกชอบเดินทางไปเยี่ยมญาติที่อยู่ต่างจังหวัด อาทิตย์นี้ก็เช่นกัน แกให้ลูกชายพาแกไปส่งบ้านน้าปุ๊ก พี่สาวที่ติดกันกับแก น้าปุ๊กเป็นเมียจ่าพล พักที่แฟลตบ้านพักข้าราชการของโรงเรียนนายร้อยจปร. นครนายก แกไปถึงเย็นวันเสาร์แล้วสั่งลูกชายว่ากลับเมื่อไหร่จะโทรไปบอก

                เช้าวันอาทิตย์ จ่าพล หรือที่เพื่อนๆ เรียกกันว่าจ่าเฒ่า เพราะแกกินเหล้าเก่งมากจนหน้าแกแซงอายุไปก่อน ลงจากแฟลตมาตอนสายๆ เพื่อมาหาเหล้าถอนตามปกติ แกนั่งที่โรงอาหารรวม กินเหล้าสักพักก็มีจ่าเชิดขับรถ จยย.มาจอดแล้วเดินมาหาจ่าพล ซึ่งจ่าพลเห็นหัวจ่าเชิดมีผ้าก๊อซแปะอยู่จึงทักไป “เฮ้ยเชิด หัวมึงไปโดนอะไรมา”

                จ่าเชิดตอบว่า “เมื่อคืนไปคาราโอเกะมา กลับตี 3 พอถึงห้องก็ทะเลาะกับเมีย พอเผลอหันหลังให้เลยโดนซัดด้วยขวดเบียร์ถึงแตกนี่ไง” จ่าพลจึงบอกว่า “เออๆ มานั่งนี่ก่อน” อีกฝ่ายว่า “ขอบใจโว้ยเพื่อน”

                สองจ่าถอนกันไปได้สองกลม จ่าเชิดก็ชวนจ่าพล “เฮ้ย เดี๋ยวเราไปบ้านอาจารย์เมฆกันดีกว่า”

                “ไปทำไมวะ”

                “กูจะไปสักยันต์ให้หนังเหนียว หัวจะได้ไม่แตกไง”

                “งั้นเดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” แล้วทั้งสองก็พากันซ้อนรถ จยย.ออกไป พอถึงปากทางถนนใหญ่ จ่าเชิดขี่ จยย.เซไปโดนรถสิบล้อเฉี่ยวล้มกลิ้ง จ่าเชิดแขนถลอก จ่าพลขาถลอกเป็นทางยาว ฝ่ายสิบล้อลงมาดู สองจ่าไม่เอาเรื่องเพราะเจ็บไม่มากนักก็เลยพากันกลับมากินเหล้าต่อ

                พอหมดไปอีกกลมก็ชวนกันออกไปอีกรอบ เที่ยวนี้ไปได้ 5 กม.ถูกรถบัสชนท้ายเต็มที่ จ่าพลเสียชีวิต จ่าเชิดกระเด็นไปตกริมคลอง พอดีเป็นขี้เลนเลยรอดตายไม่น่าเชื่อ ครั้งนี้สร้างความเศร้าโศกให้ญาติและเพื่อนร่วมงานอย่างมากที่ต้องเสียจ่าพลไป

                หลังสวดคืนที่ 3 ประมาณ 4 ทุ่ม ที่ห้องจ่าอี๊ดซึ่งอยู่ชั้น 3 แกเปิดประตูห้องนั่งกินเหล้า กำลังพูดคุยเรื่องจ่าพล จู่ๆ พี่อ้อยเมียจ่าบุญซึ่งอยู่ชั้น 2 ก็เดินขึ้นมาที่ห้องจ่าอี๊ด จ่าอี๊ดเห็นจึงถามไปว่า “อ้อยมาทำอะไรล่ะ”

                พี่อ้อยตอบว่า “พวกมึงกินไม่ชวนกูเลยนะไอ้อี๊ด ส่งเพียวๆ มาให้กูซิ”

                จ่าอี๊ดกับเพื่อนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะอ้อยนิสัยเรียบร้อย ไม่กินเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ที่ยืนตรงหน้านี้จ่าพลแหงๆ จ่าอี๊ดจึงเทเหล้าเกือบเต็มส่งให้ พี่อ้อยยกซดรวดเดียวหมดแล้วพูดกับจ่าอี๊ดว่า “ขอบใจว่ะ เดี๋วยวกูขึ้นไปหาอีปุ๊กก่อน”

                แล้วพี่อ้อยก็เดินขึ้นไปชั้น 4 พอถึงห้องจ่าพลก็เคาะเรียก “ปุ๊กโว้ย เปิดประตูหน่อย” ซึ่งน้าปุ๊กกับน้าแดงอยู่ในห้อง พอได้ยินน้าปุ๊กก็เดินมาเปิด พอประตูเปิดพี่อ้อยเห็นน้าปุ๊กก็เดินเข้ามากอดแล้วพูดว่า “อีอ้วน กูยังไม่อยากตาย ฮือๆ”

                น้าแดงเห็นเข้าเลยบอกว่า “พี่ปุ๊ก จ่าพลมาหาแล้ว”

                น้าปุ๊กจึงเอามือลูบหลังแล้วบอกว่า “ไม่ต้องห่วงฉันนะ จะหมั่นทำบุญไปให้ ขอให้ไปสู่ที่ชอบๆ นะ” พี่อ้อยไม่พูดอะไร ค่อยๆ ทรุดตัวลง น้าปุ๊กจึงประคองไว้ น้าแดงเลยหายาดมมาให้พี่อ้อย พอพี่อ้อยรู้สึกตัวก็งงๆ ว่ามาอยู่ห้องน้าปุ๊กได้ยังไง

                วันอาทิตย์เผาร่างน้าพลห้าโมงเย็น ผมก็ได้ไปร่วมพิธีด้วย น้าแดงขอกลับพร้อมผมกับแม่ ประมาณหกโมงครึ่ง รถกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเลียบคลองรังสิต ผมสังเกตเห็นตรงโค้งฝั่งตรงข้ามมีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีผ้าขาวๆ พันขา แต่มองหน้าไม่ถนัดเพราะเริ่มโพล้เพล้แล้ว

                ผ่านมาสัก 200 เมตร น้าแดงซึ่งนั่งข้างหลังถามขึ้นมาว่า “นี่แก เห็นคนที่ยืนตรงโค้งเมื่อกี้นี้มั้ย” ผมก็บอกว่าเห็นแต่ไม่รู้ว่าใคร น้าแดงพูดต่อว่า “นั่นแหละน้าพล ตอนแกตายก็ใส่ชุดนั้น มีผ้าก๊อซพันขาเพราะโดนสิบล้อเฉี่ยวมาก่อน”

                ผมสะดุ้งแล้วบอกว่า “โอ้โฮ ยังไม่ทันจะมืดเลย มาให้เห็นแล้วเหรอ คงมาส่งเราน่ะ” ตอนนั้นในใจผมนึกถึงเพลงหนึ่งขึ้นมา ‘ไม่ต้องห่วงฉัน’ ไม่ต้องตามมาอีกนะครับน้าพล

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

/

เรื่องโดย. ชาตรี 3 / กทม.

ภาพโดย. www.ranker.com


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •