แม่ย่ามัจฉาวารี

            “…ชาวบ้านวังเลียงผวา..! เจ้าแม่ตะเคียนเฮี้ยน พิโรธ อยู่ในน้ำเย็นสบาย ถูกพาขึ้นมาไว้วัดทำให้ร้อน ทำชาวบ้านมีอันเป็นไป หลังทำพิธีขอขมา รดน้ำต้นตะเคียน เจ้าแม่กลับให้โชครัวๆ ได้เฮยกหมู่บ้านต่อเนื่องกันมาแล้วหลายงวด คนแพร่แห่กราบขอโชคลาภ ต้นตะเคียนยักษ์ “แม่ย่ามัจฉาวารี” ขอให้เจอเลข ใครได้แล้วเก็บไว้ในใจ รอวันที่ออกสลาก…”

                ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่วัดวังเลียง หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ มีชาวบ้านจำนวนมากพร้อมกับผู้นำในชุมชนทำพิธีเพื่อรดน้ำต้นตะเคียนยักษ์ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “แม่ย่ามัจฉาวารี” โดยชาวบ้านเอาดอกไม้ ธูปเทียน สิ่งสักการะต่างๆ ทั้งอาหารหวานคาว น้ำดื่ม น้ำแดง และผลไม้ต่างๆ นานาชนิดตามความเชื่อ ในการรดน้ำขอโชคจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้มีการกระทำมาต่อเนื่องในทุกช่วงก่อนวันหวยออก เพราะจะมีชาวบ้านรวมถึงนักเสี่ยงโชคจากที่ต่างๆ ที่ทราบข่าวถึงความเฮี้ยน ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ตะเคียนมัจฉาวารีที่ให้โชคลาภกับชาวบ้าน บ้านวังเลียงและบ้านใกล้เคียง ได้พากันประสบโชคกันมาแล้วอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะชาวบ้านบ้านวังเลียงที่ได้ถูกหวยกันแบบยกหมู่บ้านมาแล้ว ซึ่งในวันนี้ทั้งชาวบ้านบ้านวังเลียง ทั้งชาวบ้านจากต่างถิ่นที่มาร่วมพิธีต่างก็ได้พากันเข้ามาขอขมา ทั้งกราบไหว้ขอโชคต่อเจ้าแม่มัจฉาวารี และหลายคนก็ยังคงขะมักเขม้นกับการทาแป้ง ลูบๆ ขูดๆ ถูๆ ตามลำต้นตะเคียนยักษ์อย่างมีความสุข

                นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) ทุ่งแล้งเล่าว่า ทาง อบต. ได้รับงบประมาณมาทำการขุดลอกแม่น้ำยม และทำการปรับสองข้างตลิ่งแม่น้ำยม ยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ได้เร่งทำการขุดและสร้างแนวตลิ่ง โดยได้ทำการขุดลอกมาได้ประมาณ 2 เดือนเศษ แต่หลังจากที่ลงมือขุดลอก ปรากฏว่าในขณะขุดลอกได้มีต้นตะเคียนโผล่ขึ้นมากลางน้ำ หลังจากที่พบต้นตะเคียนในวันที่ 10 เมษายน เมื่อปีที่ผ่านมา ชาวบ้านก็มาหารือและปรึกษากันว่าสมควรทำอย่างไร ก็ปรึกษาทางท่าน “พระครูพรภิรมย์ โชติปัญโญ” เจ้าอาวาสวัดวังเลียง ก็มีการนำเจ้ามาเข้าทรง และคนทรงเจ้าบอกว่าตะเคียนนี้มีอาถรรพณ์ จะนำขึ้นจากน้ำได้ต้องรอนำขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ส่วนสถานที่ตั้งต้องนำเข้าไว้ในวัด และร่างทรงยังให้ชื่อต้นตะเคียนนี้ว่า “เจ้าแม่มัจฉาวารี” ตกลงมีมติกันว่าจะนำขึ้นจากน้ำในวันที่ 13 เมษายน ปี พ.ศ. 2563 เวลา 09.00 น.

                เมื่อนำต้นตะเคียนยักษ์ต้นดังกล่าวขึ้นมาไว้ริมท่าน้ำยมในวันที่ 13 เมษายน แล้วปรากฏว่าตลอดทั้งคืนของวันที่ 13 เมษายนนั้นได้เกิดเสียงหมาเห่าหอนภายในวัด และวันต่อมาก็เห่าหอนกันตลอดทั้งคืนอีก ชาวบ้านจึงได้ตัดสินใจช่วยกันนำเอาต้นตะเคียนดังกล่าวที่อยู่ห่างจากวัดประมาณ 800 เมตร เข้ามาไว้ในวัดให้ได้ และต้องช่วยกันหารถมาบรรทุกเพื่อนำเข้าวัด แต่ก็ไม่สามารถนำมาได้ เพราะต้นตะเคียนนั้นใหญ่มาก จึงได้ทำพิธีและขอตัดครึ่ง ยกเอามาครั้งละท่อนจนสามารถยกมาได้ในวันที่ 21 เมษายน เวลา 16.00 น. ได้ครบทั้งต้น ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เกิดมีเสียงหมามาเห่าหอนกันอีกเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

                ด้านพระครูพรภิรมย์ โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังเลียงกล่าวว่า น่าแปลกมาก หลังจากที่นำต้นตะเคียนยักษ์ขึ้นมาวางไว้ข้างพระอุโบสถในวัดแล้ว เสียงหมาที่เห่าหอนมาหลายคืนกลับเงียบกริบเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเข้าใจว่าในช่วงนั้นเจ้าแม่ตะเคียนต้องการจะขึ้นมาอยู่ในวัดอย่างแน่นอน และหลังจากนั้นก็ได้ทำพิธีบวงสรวงกันอีกครั้งตามความเชื่อของชาวบ้าน ส่วนความกว้างของต้นตะเคียนน่าจะราว 4 คนโอบ แต่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางตรงๆ ได้ที่ 1.80 เมตร ความยาว 19 เมตร

                “นายสุนทร หอมนาน” อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังเลียง หมู่ที่ 7 กล่าวว่า หลังจากที่นำต้นตะเคียนนี้ขึ้นมาก็มีชาวบ้านจากต่างจังหวัดแอบเข้ามาทาแป้งหาเลขกัน แต่ด้วยช่วงนี้หวยยังไม่ออก ชาวบ้านที่ทยอยมาก็ยังไม่ฮือฮา แต่เชื่อว่าใกล้หวยออกนั่นแหละจะมีชาวบ้านแห่กันมาขอเลขกัน เพราะจังหวัดแพร่นับว่าพบต้นตะเคียนต้นนี้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเท่าที่พบมา ทั้งนี้คาดว่าในช่วงนี้ ชาวบ้านก็อยากจะคลายเครียดกัน หลังจากที่อึดอัด ตึงเครียดกันมาเป็นเดือนๆ จากพิษของโควิด 19 ซึ่งทางหมู่บ้านจะได้แนะนำในการเข้ามากราบไหว้ให้เป็นระเบียบ ทุกคนต้องห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร สวมหน้ากากอนามัยทุกคน

                “นายสุชาติ เครื่องแก้ว” ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังเลียง หมู่ 7 เล่าให้ผู้เขียนฟังว่าตะเคียนแม่ย่ามัจฉาวารี โดยชาวบ้านนำขึ้นมาจากลำน้ำยมเมื่อปีก่อน ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ชาวบ้านจึงไม่ได้จัดพิธีทำบุญให้เจ้าแม่อย่างเป็นจริงเป็นจัง มาในระยะนี้ ในหมู่บ้านมีคนเสียชีวิตติดๆ กัน เสียชีวิตผิดธรรมชาติ ตายโหง อุบัติเหตุ อยู่ดีๆ ตายก็มี เป็นจำนวน 8 ศพแล้ว

                นายสุชาติยังได้เล่าอีกว่าศพล่าสุดคืองานศพของ “นายงาน จินาเคียน” อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 66/3 หมู่ 12 รายนี้ก็หลับตาย โดยจะทำการฌาปนกิจศพ และเมื่อเช้านี้ชาวบ้านได้ลงไปที่ลำน้ำยมหน้าวัด ชาวบ้านกำลังขอขมาเจ้าแม่ตะเคียน จู่ๆ ก็ได้มีร่างทรงพ่อหลวงใหญ่ ร่างทรงประจำหมู่บ้านวิ่งลงไป และกล่าวว่าหากชาวบ้านไม่ทำพิธีขอขมาลาโทษเจ้าแม่ตะเคียน ชาวบ้านจะมีอันเป็นไปอีก 8 ศพ จะเอาให้ตายถึง 16 ศพ ทำให้ชาวบ้านวังเลียงต่างหวาดผวาไปตามๆ กัน ในตอนกลางคืน ในหมู่บ้านเงียบสงัด ได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนสุดวังเวง ตนจึงคิดว่าจะต้องนำชาวบ้านจัดพิธีขอขมาตามประเพณี และทำการสวดเบิกทั้ง 4 ทิศ ซึ่งหลังจากที่ได้จัดพิธีดังกล่าวแล้ว เรื่องราวต่าง ๆ ก็หายไป

                ชาวบ้านท่านหนึ่งได้เล่าถึงความเฮี้ยนของเจ้าแม่ตะเคียนมัจฉาวารีให้ผู้เขียนได้ฟังว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 กันยายน 2563 ที่วัดวังเลียง ได้มีชาวบ้านวังเลียงทั้งหมู่ 7 และหมู่ 12 ซึ่งศรัทธาวัดวังเลียงได้พากันมารวมตัวกันที่วัดโดยการนำของ “นายสุชาติ เครื่องแก้ว” อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านวังเลียง หมู่ 7 คนใหม่ พร้อมด้วยผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งชาย – หญิง จำนวนร่วม 20 คน ได้พากันนำดอกไม้ธูปเทียน ขันน้ำ อ่างน้ำเพื่อมาขอขมา “แม่ย่ามัจฉาวารี” ซึ่งตั้งไว้ปากทางเข้าวัดวังเลียง

                โดยมีพ่อเฒ่าซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์เป็นผู้กล่าวนำ ว่าขอแม่ย่ามัจฉาวารีได้อโหสิให้ชาวบ้าน ที่ได้ล่วงล้ำก้ำเกินเจ้าแม่ ที่นำขึ้นมาจากลำน้ำยมและยังไม่ได้นำมาไว้ที่บนวัด จนเจ้าแม่อยู่ด้วยความลำบาก ทำให้เจ้าแม่ร้อน เป็นเหตุให้ชาวบ้านในบ้านวังเลียงต้องประสบเหตุเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ขอให้เจ้าแม่ได้ลดโทษให้ชาวบ้านด้วย วันนี้ชาวบ้านทำพิธีอัญเชิญเจ้าแม่มาอยู่ที่วัด เพื่อเป็นที่สักการบูชา ให้โชคลาภกับชาวบ้าน โดยชาวบ้านต้องลูบคลำที่ลำต้นของเจ้าแม่ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ ชาวบ้านได้มาขอขมาลาโทษหวังให้เจ้าแม่ได้ลดโทษ อภัยให้ชาวบ้าน และจะได้จัดพิธีทำบุญตามประเพณีให้อีกครั้งในทุกๆ ปี

            “แม่ย่ามัจฉาวารี” เจ้าแม่ตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นตะเคียนยักษ์ อายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่ภายในศาลาแม่ตะเคียน ให้โชคลาภต่อเนื่อง มีชาวบ้านทั้งนักเสี่ยงโชคแห่มากราบไหว้ ขอเลขกันอย่างคึกคัก ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางมา ได้ทำการขอโชค ได้เป็นเลขมาฝากท่าน ได้เลข 1 และเลข 2 ถ้าให้จับชุดเลขสองตัวจะได้เลขชุดดังนี้ 11 – 13 – 15 – 16 – 19 และ 21 – 23 – 25 – 27 – 29 ลองซื้อกันได้แต่ถ้าท่านอยากได้เลขสามตัวให้เอาเลข 4 ไปเข้าชุดได้ ท่านอาจได้โชคจากตัวเลขที่ผู้เขียนได้ขอจากแม่ย่ามัจฉาวารีมาฝากท่าน

                โชคลาภของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ที่วาสนาแต่ละท่านได้ทำมา ข้อมูลที่ชี้แนะท่านเป็นข้อมูลจริงที่ผู้เขียนได้ไปทำมาด้วยตัวเอง จงหมั่นสร้างบุญ สร้างกุศล เพื่อเป็นธนาคารบุญที่จะมาหนุนส่งท่านให้ประสบโชคได้ลาภอย่างต่อเนื่อง ขอให้ท่านจงโชคดี ประสบโชคใหญ่ด้วยกันทุกท่าน

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

/

ภาพ และเรื่องโดย…พันธ์ พรพรหม