25 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

“…คอหวยแห่ขอโชค “เจ้าส้มฉุน” เด็กวัดทรงเสวย จ้างวงกลองยาวมารำแสดงแก้บน พร้อมถวายรถของเล่น พร้อมจุดประทัด 1,000 นัดตามที่บนไว้ หลังให้โชคใหญ่ ถูกรางวัลติดต่อกัน 6 งวด กว่าครึ่งล้าน…” 

จะนำท่านไปกราบไหว้ ทั้งยังได้ขอโชคลาภจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดชัยนาท เมื่อเดินทางมาถึง วัดแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึงจะเป็นวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ดังอย่าง “หลวงปู่ศุข” กล่าวกันว่า ถ้าใครเดินทางมายังจังหวัดชัยนาท แล้วไม่ได้แวะมากราบนมัสการหลวงปู่ศุข ถือว่ายังมาไม่ถึงชัยนาท เมื่อเดินทางมาถึงถิ่นแล้ว ก็ต้องแวะกราบนมัสการหลวงปู่ศุข เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน จากนั้นจะพาไปไหว้พระขอพร “พระพุทธสุวรรณมหาชัยมุนี” หรือ “หลวงพ่อทอง” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำอุโบสถวัดทรงเสวย และเทพเจ้าวาจาสิทธิ์แห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน อดีตเจ้าอาวาสวัดทรงเสวย “พระครูวิชัยสาธุชัย” หรือ “หลวงพ่อย้อย” ณ วัดทรงเสวย ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท

ซึ่งเป็นสถานที่เสด็จประพาสต้นของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บสิ่งของพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 มีบาตร ปิ่นโต พระขรรค์ ตาลปัตร ใบลาน ตะเกียงลาน เรือสำปั้น ป้านน้ำชา 1 ชุด โดยถือเป็นของพระราชทานที่ยังสมบูรณ์ที่สุด และทำการเก็บรักษาเป็นอย่างดี มีกำแพงแก้ว ซึ่งเป็นศิลปะปูนปั้นรูปพุทธประวัติ บนซุ้มประตูที่หาชมได้ยาก นอกจากที่วัดทรงเสวยแห่งนี้ จะมีสิ่งที่ผู้เขียนได้บอกมาแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่วัด กล่าวได้ว่า มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก นั่นคือ “เจ้าส้มฉุน” หรือ “ไอ้ส้มฉุน” เด็กวัดทรงเสวย ที่อยู่คู่กับวัดแห่งนี้มานานหลายปี

กล่าวกันว่าไม่ว่าใครเดือดร้อนหรือต้องการจะได้ในสิ่งใด ก็จะมากราบไหว้บนบานขอต่อเจ้าส้มฉุน จะสมหวังกันทุกรายไป โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภด้วยแล้ว ขอบอกเลยครับว่า เจ้าส้มฉุนตนนี้ บันดาลโชคลาภใหญ่ให้กับผู้คนมาแล้วต่อเนื่องมานาน ล่าสุดเมื่องวดวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ประสบโชคใหญ่ รับเงินกว่าครึ่งล้าน ทั้งผู้ที่ได้รับโชคจากเจ้าส้มฉุน ได้นำรถของเล่นคันใหญ่ พร้อมของเล่นเด็ก ผลไม้นานาชนิด ขนม น้ำแดงอีกเป็นจำนวนมาก มาแก้บนตามที่ได้บอกกล่าวไว้ ทั้งยังได้ร่วมบริจาคเงินรวมกัน 50,000 บาท มาว่าจ้างกลองยาวมารำให้เจ้าส้มฉุนได้ดูด้วย เพราะเป็นสิ่งที่เจ้าส้มฉุนชอบเป็นพิเศษ แต่ก่อนที่จะไปพบกับเจ้าส้มฉุน ผู้เขียนจะขอแนะนำ บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดทรงเสวยแห่งนี้ ให้ท่านผู้อ่านได้ทราบคร่าวๆ กันก่อน

“วัดทรงเสวย” ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 63 บ้านหนองแค หมู่ที่ 1 ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2430 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เคยเป็นวัดร้างมาก่อน มีชื่อเดิมว่า “วัดเกสร” ก่อตั้งขึ้นโดย “พระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ” และชาวบ้านหนองแค ภายหลังพระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดราษฎร์เจริญธรรม” แต่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “วัดหนองแค” ตามชื่อหมู่บ้านมากกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2451 (ร.ศ. 127) สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินตรวจสอบลำน้ำเก่า โดยทางรถไฟ ถึงจังหวัดนครสวรรค์แล้วเสด็จประทับเรือพระที่นั่งครุฑเหิรเห็จ เพื่อตรวจลำแม่น้ำมะขามเฒ่า (แม่น้ำท่าจีน) ทรงประทับแรมที่วัดหัวหาด อำเภอมโนรมย์ ปัจจุบันเรียกวัดนี้ว่าวัดพิกุลงาม นับเป็นการเสด็จเมืองชัยนาทเป็นครั้งที่ 3

ต่อจากนั้น วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2451 เสด็จฯ ตามลำน้ำมะขามเฒ่า ผ่านตลาดวัดสิงห์ ลำน้ำมะขามเฒ่า สมัยนั้นเต็มไปด้วยผักตบชวา และตอไม้ ประชาชนจึงได้ช่วยกันตัดตอไม้ และเก็บผักตบชวา พระองค์ประทับแรมที่ ณ บ้านหนองแค ซึ่งสมัยนั้นขึ้นกับตำบลคลองจันทร์ อำเภอเดิมบาง เมืองไชยนาท (ปีพุทธศักราช 2452 ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นตำบลวัดสิงห์ อำเภอวัดสิงห์ เมืองไชยนาท) ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ในครั้งนั้นพระอธิการคล้อยเป็นเจ้าอาวาส ได้ชักชวนราษฎร์สร้างพลับพลารับเสด็จ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์เสวยยอดหวายโปง “ตาแป้น” มรรคนายกวัดหนองแค (ภายหลังทรงตั้งให้ตาแป้น ดำลงตำแหน่งหมื่นสมาน ขุนมาส) จึงได้ให้ชาวบ้าน ไปหายอดหวายโปงมาเผาไฟ หยวกกล้วยต้ม น้ำพริกปลามัจฉะมาถวาย พระองค์ทรงเสวยอย่างเจริญพระกระยาหาร และตรัสกับชาวบ้านว่า ต่อไปนี้ให้เรียกวัดนี้ว่า “วัดเสวย” แต่ชาวบ้านได้ขอพระราชทาน ขอเติมคำว่า “ทรง” ไปด้วย ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าเป็นคำราชาศัพท์ พระองค์ทรงพระอนุญาต ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดทรงเสวย” จนทุกวันนี้

เจ้าส้มฉุน

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2452 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช (พระโอรสองค์ที่ 75) ประชวรด้วยโรคไส้ตัน สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 17 พรรษา เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 12 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็งเบญจศก ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงมีรับสั่งให้บูรณะวัดทรงเสวย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถวายของที่ระลึกแด่พระอธิการคล้อย เป็นของที่ระลึกงานพระศพของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ของที่ถวายได้แก่ บาตร ฝาบาตรมีตราสีทองรูปวงรี มีข้อความว่า ร.ศ. 128 งานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ปิ่นโตขนาดใหญ่ ที่ฝาปิ่นโตมีข้อความ เช่นเดียวกับฝาบาตร พระขรรค์ ตาลปัตรใบลาน ตะเกียงลาน เรือสำปั้น ป้านน้ำชา 1 ชุด ตราประจำวัดทรงเสวย แกะด้วยงา และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งของเหล่านี้ ปัจจุบันทางวัดยังเก็บรักษาไว้อย่างดี ปัจจุบันมีการสร้างพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บสิ่งของพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ขณะที่ภายในวัด มีอุโบสถที่สวยงาม รวมทั้งกำแพงแก้ว ซึ่งเป็นศิลปะปูนปั้นรูปพุทธประวัติบนซุ้มประตู ที่หาชมได้ยาก และมีงานประจำปี ในวันที่ 6 ธันวาคม เป็นประจำทุกปี

การแสดงแก้บน

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา (ก่อนหน้าการประกาศพระราชกำหนดในสถาณการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 2019) ผู้เขียนได้เดินทางมาที่วัดทรงเสวย ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เนื่องจากได้ทราบว่า จะมีคนหลายคนมาร่วมกันทำการแก้บน เนื่องจากได้รับโชคใหญ่รับเงินกว่าครึ่งล้าน จึงได้เดินทางมาดูเหตุการณ์ ตามคำบอกเล่าของคนที่วัดมะขามเฒ่า ที่ได้บอกเล่าให้ผู้เขียนฟัง หลังจากที่ผู้เขียนได้กราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่ศุขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เดินชมดูวัตถุมงคล ทั้งเลือกหาซื้อลอตเตอรี่ตามแผงที่มาวางขายภายในวัด จากนั้นก็ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่ขายอยู่ภายในวัด ก็บังเอิญได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงเรื่องราวสัพเพเหระต่างๆ ก็บังเอิญได้วกเข้ามาถึงเรื่องราวของสถานที่ให้โชค จึงได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้าน ว่าที่วัดทรงเสวย ในเขตอำเภอวัดสิงห์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้โชค ซึ่งเป็นกุมารที่อยู่คู่กับวัดนี้มานาน ทุกคนรู้จักกันดีในนาม “เจ้าส้มฉุน” หรือ “ไอ้ส้มฉุน” ที่ได้ให้โชคลาภใหญ่แก่ผู้คนที่ไปกราบไหว้ บนบานขอ ต่อเนื่องกันมาหลายงวดแล้ว ล่าสุด มีผู้ประสบโชคใหญ่จากเจ้าส้มฉุน ได้รับเงินไปกว่าครึ่งล้าน ทั้งมีผู้ที่ประสบโชคกันอีกหลายคน ซึ่งจะมาร่วมกันทำการแก้บนกันในวันนี้

ของแก้บน

ส่วนความเป็นมาของเจ้าส้มฉุนนั้น มีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่า ผู้แก่ที่เล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า หลวงปู่คล้อย ธมฺมนิยํ อดีตองค์ปฐมเจ้าอาวาสวัดทรงเสวย มีลูกศิษย์วัดคนโปรดอยู่ 1 คน มีชื่อว่า “เจ้าส้มฉุน” ดูทรงผมเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายหมด เป็นเด็กผู้ชายที่ไว้ผมแกละ หลวงปู่คล้อยท่านเมตตา สงสาร จึงได้รับเอามาอุปการะเลี้ยงดู สอนหนังสือ สอนวิชาต่างๆ หลายอย่าง จนเจ้าส้มฉุนอายุได้ 10 ขวบ มีความซุกซน ตามประสาของเด็กในวัยนั้น วันหนึ่งทรงชุดลงไปเล่นน้ำ แบบเป็นผ้าที่หนาๆ กับเพื่อนๆ เด็กวัดอีกหลายคน ในระหว่างเล่นน้ำอยู่นั้น เจ้าส้มฉุนเกิดเป็นตะคริวที่ขา ไม่สามารถทรงตัวว่ายน้ำอยู่ได้ ตะเกียกตะกายร้องเรียกให้เพื่อนช่วย

เพื่อนเด็กวัดด้วยกันคงคิดว่าเจ้าส้มฉุนล้อเล่น จึงไม่ได้สนใจ จนทำให้เจ้าส้มฉุนเสียชีวิต จมน้ำตายในที่สุด หลังจากเจ้าส้มฉุนตาย ก็มีหลายเหตุการณ์ที่บอกเล่าสืบต่อกันมาว่า พระที่บวชใหม่ มักจะเจอกับวิญญาณของเจ้าส้มฉุนมากลั่นแกล้ง มาชวนเล่นด้วยอยู่บ่อยครั้ง มาขอขนมกินบ้าง มีเด็กวัดคนอื่น ก็มักจะโดนเจ้าส้มฉุนมาแกล้ง เวลาหลับก็มาดึงขาเข้าบ้าง หรือเวลามีงานวัดก็มักมีผู้คนพบเห็นเด็กใส่ชุดไทย ไว้ผมแกละ มาวิ่งเล่นบนศาลาบ้าง นั่งเล่นอยู่ที่ท่าน้ำวัดบ้างอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า ถ้าใครอยากได้ลูก หรืออยากไม่ให้ลูกดื้อ มีสุขภาพที่สมบูรณ์ เฉลียวฉลาด ก็มักจะมาบนบานขอจากเจ้าส้มฉุน หรือพากันมาขอโชค ขอลาภ ขอความสำเร็จกับเจ้าส้มฉุนอยู่เสมอ

“เจ้าส้มฉุน” เด็กวัดทรงเสวยให้โชค ตั้งให้ได้กราบไหว้ขออยู่ในศาลาที่วัดทรงเสวย ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 63 บ้านหนองแค หมู่ที่ 1 ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ห่างจากเขื่อนพลเทพประมาณ 7 กิโลเมตร ท่านผู้อ่านสามารถเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภกันได้ทุกวัน ลองแวะเวียนกันมา ผู้เขียนมาแล้ว และได้โชคจากเจ้าส้มฉุนมาแล้วด้วย จึงอยากเชิญชวนให้ท่านมาที่วัดทรงเสวยกันดูสักครั้ง ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางมา ก็ได้ขอโชคเป็นตัวเลขจากเจ้าส้มฉุนมาฝากท่านผู้อ่านกันด้วย ได้เลข 0 และเลข 4 มาถ้าให้จับชุดเลขสองตัวจะได้เลขชุดดังนี้ 01 – 02 – 04 – 05 – 08 และ 40 – 42 – 44 – 45 – 48 ลองซื้อกันดู แต่ถ้าท่านอยากได้เลขสามตัวให้เอาเลข 5 ไปเข้าชุดได้ ท่านอาจโชคดีได้ถูกหวยในงวดนี้ได้

อยากจะฝากกันไว้ขอให้ท่านโปรดมีสติทุกครั้งในการพิจารณาเสี่ยงเล่น ข้อมูลต่างๆ ที่นำเสนอนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภในแต่ละบุคคล อาจจะมีไม่เท่ากัน แต่มั่นใจได้ว่าทุกคนล้วนมีโชคอยู่ในตัวกันอยู่แล้ว จะมีมากหรือมีน้อยก็แล้วแต่บุญวาสนาของแต่ละท่านที่ได้สร้างทำกันมา ขอให้ท่านจงโชคดี ประสบโชคใหญ่ด้วยกันทุกท่าน

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ภาพและเรื่องโดย. พันธ์ พรพรหม


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •