25 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                สำหรับเรื่องนี้ยังอยู่ในสมัยนิยม แม้ปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นจะพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีไปไกลมากก็ตาม แต่ความเชื่อที่เกี่ยวกับคนตาย ฆ่าตัวตาย ยังคงมีอยู่ พวกเขาเชื่อว่าการฆ่าตัวตายมาจากการถูกอำนาจของปีศาจ ผีร้ายบังคับให้เป็นไป ดังเรื่องต่อไปนี้  ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ (แม้เรื่องเล่าจะเก่า)

                อิซึกิ : วิญญาณผีตายโหง

                บ้านเราจะเรียกว่าตัวตายตัวแทน อิซึกิเป็นวิญญาณของมนุษย์ที่แขวนคอตาย ทำให้วนเวียนอยู่ระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกที่ไม่มีทางหลุดพ้นได้จนกว่าจะมีคนอื่นมาตายแทน วิญญาณบาปเหล่านี้จะวนเวียนรอคนมาแขวนคอตาย แต่ถ้าไม่มีใครมาเลยมันก็จะใช้วิธีหลอกล่อ บีบบังคับให้ไปตายให้จงได้เพื่อให้วิญญาณนั้นไปลงนรกแทนมัน พวกมันมักแฝงตัวอยู่ภายใต้เงามืด มีเพียงเสียงเรียกร้องและยั่วยุให้คนที่ดวงตกหรือบังเอิญผ่านทางมาเจอ แล้วเกิดความรู้สึกต้องการจะฆ่าตัวตาย

                แต่มันทำได้กับบางคน ยกเว้นคนที่ดวงดีและมีสติก็จะรอดพ้นจากมันได้โดยไม่มีคำสาปแช่งหรือโชคร้ายติดตัว เรื่องเล่าของอิซึกินั้นมีมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยจีนโบราณ มันถูกกล่าวว่าเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ตกทอดจากจีนมาสู่ญี่ปุ่น

                มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีนักเดินทางหนุ่มน้อยนามว่าซูกิ ได้แวะพักค้างคืนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในคืนนั้นเขาได้ยินเสียงผู้หญิงข้างห้องบ่นพึมพำไม่เป็นภาษา เมื่อเขาแอบลอบมองเข้าไปก็พบว่า หญิงคนนั้นถือบ่วงเชือกคล้องคอรอไว้แล้ว เชือกนั้นถูกพันด้วยเงาสีดำที่ทอดตัวยาวและตั้งขึ้นเป็นรูปทรง เขารีบพังประตูห้องเข้าไปช่วยเธอและตัดเชือกทิ้งทันที เมื่อเชือกขาดเงาดำนั้นก็หายตัวไป เมื่อเธอได้สติกลับกลายเป็นว่าจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย 

                เรื่องเล่ายังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงสมัยเอโดะ มีเศรษฐีท่านหนึ่งได้จัดงานเลี้ยงขึ้นที่บ้านพักของเขา แต่เพื่อนของเขาที่ตกลงว่าจะมาช่วยในงานนี้กลับไม่มา เขาจึงรอเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมง จนกระทั่งเพื่อนของเขามายังงานเลี้ยงด้วยท่าทางแปลกๆ และรีบกล่าวขอโทษเป็นการใหญ่ เศรษฐีให้เขาเล่าเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าเป็นมาอย่างไร เขาจึงเล่าให้ฟังว่ามีคนมาชักชวนให้เขาแขวนคอตาย ไม่รู้ทำไมเขาถึงทำตาม แต่เขาก็ยังไม่อยากตาย ต้องการไปงานเลี้ยงจึงล่าช้า ผีร้ายให้เขาแขวนคอตายที่หน้าประตูบ้านของเพื่อนจึงมาในงานเลี้ยงได้ และเขาก็ต้องแขวนคอตายตามสัญญา

                ทุกคนในงานฟังก็ตกใจ และไม่มีใครให้เขาออกไปจากเรือนรับรองก่อนรุ่งเช้า ชายคนนั้นดิ้นรนอยากแต่จะออกไปตายให้ได้ จนถูกเพื่อนๆ ในงานบังคับให้กินเหล้าจนหมดสติหลับไป และมีข้าทาสบริวารคอยเฝ้าไว้  พอกลางดึกมีคนรายงานเศรษฐีว่ามีคนแปลกหน้ามาแขวนคอตายหน้าบ้าน  ผีมันคงรอไม่ไหวจึงล่อลวงเหยื่อคนอื่นให้มาตายแทน  เมื่อเพื่อนของเขาได้สติสร่างเมา เศรษฐีจึงได้เกลี้ยกล่อมให้เขาเล่าถึงสาเหตุที่เขาตั้งใจจะฆ่าตัวตายให้ฟัง เพื่อนของเขาบอกว่าจดจำเรื่องราวทั้งหมดได้ไม่มาก จำได้ว่ามันเหมือนความฝัน ฝันว่าเขาเดินไปที่ประตูหน้าบ้านของเศรษฐี แล้วมีคนแปลกหน้าพุ่งตรงเข้ามา เขาได้ยินเสียงพูดว่า

                “จงแขวนคอตายที่นี่”  เขารู้สึกว่ามันแปลก แต่ก็ไม่สามารถขัดขืนใดๆ ได้เลย เขาจึงบอกกับคนแปลกหน้าในฝันไปว่า “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะฉันต้องไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านหลังนี้”

                คนแปลกหน้าจึงบังคับให้เขาออกจากงานเลี้ยงมาเพื่อฆ่าตัวตาย ด้วยพลังลึกลับบางอย่างที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ เขาสัญญาว่าจะทำตามที่เขาได้รับคำสั่ง จากนั้นก็ตรงมางานเลี้ยง แขกที่ร่วมงานถึงได้ถามว่าตอนนี้เขายังมีความต้องการที่จะฆ่าตัวตายอยู่หรือไม่ เขาปฏิเสธและบ่นพึมพำว่า “ช่างน่ากลัวเหลือเกิน”

                ในประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงมาก ในปัจจุบันก็ยังมีเรื่องเล่าที่มีความเชื่อมโยงกับอิซึกิ คือ ชายคนหนึ่งได้บอกกับเพื่อนของเขาว่า มีข้อความประหลาดส่งมาชักชวนให้ฆ่าตัวตาย และในวันต่อมาเขาก็ได้ฆ่าตัวตายจริงๆ กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบบันทึกของผู้ตายที่ก่อนตายระบุว่า เขาได้รับโทรศัพท์สายแปลกๆ สายหนึ่ง ปลายสายชักชวนและล่อลวงให้ฆ่าตัวตาย โดยคนที่ถูกอิซึกิล่อลวงให้ฆ่าตัวตายนี้มักไม่มีอาการหรือสัญญาณบ่งบอกให้รู้ล่วงหน้าก่อนเลย     

            ชินิคามิ : ผีคุณไสยทวงชีวิต

            ชินิคามิเป็นผีที่เกิดจากคุณไสยมนตร์ดำ มักจะวนเวียนยังบ้านพักของคนตาย พวกมันมีอันตรายอย่างมาก แตกต่างกับอิซึกิ มีลักษณะที่เหมือนมนุษย์ตัวเล็กประมาณเด็กอายุ 7-10 ขวบ ผิวสีเทาเน่าๆ คล้ายศพ ถูกจัดว่าเป็นวิญญาณที่ชั่วร้าย พวกมันจะทำให้สถานที่ที่มันไปนั้นมีความตายเกิดขึ้น มันจะไปปรากฏกายยังสถานที่ที่มีคนตายโหง แล้วทำให้คนต่อๆ ไปมาตายยังที่นี่ โดยเฉพาะที่ที่มีการฆ่าฆาตกรรมและการฆ่าตัวตาย หรือทำให้มีแต่คนตายเกิดขึ้นไม่ว่ามันจะไปที่ใด

                พวกมันทำหน้าที่เข้าไปสิงเหยื่อและหลอกหลอน ทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีแต่ความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับความตาย ทั้งฆ่าตัวตายและฆ่าคนอื่น รวมถึงการประทุษร้ายคนอื่นอีกด้วย เมื่อความคิดเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวมากขึ้น จนกระทั่งเขาได้ทำแบบนั้นจริงๆ ความตายจึงได้เกิดขึ้น รวมถึงการฆาตกรรมที่โหดร้ายสยองขวัญ การทรมานที่วิปริตผิดวิสัยของมนุษย์

                ส่วนความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับชินิคามิ คือไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เจอได้เห็นมัน เขาเหล่านั้นย่อมจะโชคร้ายอย่างที่สุด จนกระทั่งนำไปสู่ความตายดังที่กล่าวมา ตามความเชื่อท้องถิ่นในหลายพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับชินิคามิ เช่น การอยู่เฝ้าศพ หรือค้างคืนในบ้านและสถานที่ที่มีคนตาย  คนคนนั้นจะถูกชินิคามิตามติดกลับมาด้วย

                วิธีแก้เคล็ดคือต้องดื่มชาด้วยชามข้าวแล้วรีบนอนในทันที ไม่เช่นนั้นชินิคามิจะมาสิงได้ เขาบอกผีพวกนี้มันหลอกล่อเก่งมาก และให้มาตายซ้ำวนเวียนยังสถานที่เดิมที่รวมผีตายโหง อาจเป็นพลังงานของคนที่ตายโหงด้วยจึงทำให้มันมีพลังมาก วิธีแก้อาจทำโดยการปัดรังควานยังสถานที่ที่มีคนตายนั้นๆ ทำบุญและชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ก็พอลดเบาบางได้บ้าง เรื่องเล่านี้มีมาแต่สมัยโบราณจนถึงวันนี้ก็ยังมีคนเชื่ออยู่จริง จนบางครั้งเราก็ไม่ได้คิดว่าคนที่ทำร้ายคนอื่นอย่างโหดเหี้ยมเกิดจากฝีมือผีด้วยเหมือนกัน?

                คานาชิบาริ : ผีอำให้ตาย

                คานาชิบาริ หมายถึงการนอนหลับแล้วกลายเป็นอัมพาต คือไม่อาจขยับเขยื้อนตัวเองได้ ทั้งๆ ที่ใจและตายังเปิดอยู่ เหตุการณ์นี้คือการถูกผีทับ เหมือนอยู่ในภวังค์ครึ่งหลับครึ่งตื่น จริงๆ ฝันๆ อะไรทำนองนี้

                ผู้ที่ถูกผีทับจะดิ้นรน หวาดกลัว สิ่งที่พอกำจัดมันไปได้คือการสวดมนต์ท่องพระสูตร มันจะทนไม่ได้และจากไป แล้วหายจากอัมพาตชั่วคราว แม้มันจะไม่ทำให้ตายแต่มันก็น่ากลัวและน่ารำคาญมากๆ การถูกผีทับหรืออำร่างคนนอนนั้นขึ้นชื่อว่าผีล้วนทำได้  มีแบบแกล้งเล่นๆ หรือแกล้งทำให้ถึงตายก็ได้อีกด้วย

                ที่จังหวัดอิชิคาวะ ถึงกับหลอนเลยทีเดียว คนนอนเหมือนถูกคนทับที่หน้าอกแล้วก็พบว่ามีผีเด็กเล็กมานั่งทับ มันอาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ หรือเกิดขึ้นทุกคืนจนทำให้คนที่นอนในห้องนั้นไม่อาจทนนอนได้อีก มีผีที่ทำอย่างนี้ถึงกับทำให้คนตายได้ในหลายรูปแบบ หลอกหลอนเต็มที่

                ในจังหวัดอิวาเตะ ในช่วงกลางดึกคนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสังหรณ์ว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหว หรือแม้ว่าเขาจะตื่นก็รู้สึกเหมือนแขนอันทรงพลังจับเขาแน่นทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทันใดนั้นมีพลังที่มองไม่เห็นดึงขาของเขา ฉุดลากเขาออกมาจากใต้ฟูกที่นอน ลากไปที่หน้าต่างราวกับจะลากให้ตกลงไปตาย เพราะห้องพักที่นอน มักจะมีหน้าต่างที่เปิดอยู่ริมน้ำ หรือชั้นบน เขาก็ดิ้นให้หลุดจากอำนาจเร้นลับ พอหลุดได้เขาก็เห็นผีหญิงวัยกลางคนลุกขึ้นยืนบนเพดาน เป็นภาพที่น่ากลัวมากๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีพลังมาก คิดว่าในหนังทำออกมาหลอกคนดูให้ตกใจกลัวเท่านั้น มีแบบนี้ด้วย ยิ่งกว่าหลอน

                ก่อนนอนคงต้องพกของศักดิ์สิทธิ์และท่องบทสวดให้ขึ้นใจให้ได้

            ฮันกอนโกะ : ธูปเรียกวิญญาณ

                ฮันกอนโกะ เป็นธูปลึกลับในตำนานจีนโบราณที่อ้างว่าสามารถเรียกวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วให้มาปรากฏกายได้ กล่าวกันว่ามันทำมาจากต้นไม้วิเศษชนิดหนึ่งที่มีใบสีแดงสดคล้ายกับใบเมเปิลและต้นโอ๊กของญี่ปุ่น กลิ่นของต้นไม้ชนิดนี้ส่งกลิ่นหอมไปไกลถึง 100 ลี้ ขั้นตอนทำธูปฮันกอนโกะต้องนำทั้งราก ใบ และดอกมาอบรวมกันเพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำธูป แล้วกลั่นน้ำมันหอมออกมาเพื่อนำไปผสมใช้กับเครื่องหอมอื่นๆ เมื่อใดก็ตามที่จุดธูปนี้ขึ้นมา วิญญาณของคนตายที่ผู้จุดคำนึงถึงจะมาปรากฏกายขึ้นผ่านควัน

                แต่วิญญาณคงร่างอยู่ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น โดยอ้างอิงจากเรื่องเล่าโบราณ จักรพรรดิหวู่แห่งราชวงศ์ฮั่นทรงใช้ธูปนี้เช่นกัน เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่นางสนมลีลี่ นางผู้เป็นที่รักของพระองค์เสียชีวิตไป พระจักรพรรดิทรงเสียพระทัยอย่างมาก ล้มป่วยลงทันที อาการทรุดหนักขึ้นทุกวัน พ่อมดหมอผีผู้นับถือลัทธิเต๋าในขณะนั้นได้คิดค้นหาหนทางพยายามที่จะบรรเทาความเศร้าโศกพระองค์  จึงได้ทำธูปฮันกอนโกะจำนวนมากเพื่อที่จะให้พระองค์ได้ทรงพบกับพระสนมลีลี่อีกครั้งหนึ่ง

                เรื่องเล่าของธูปฮันกอนโกะนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น พบได้ตามวรรณคดีช่วงสมัยเอโดะ ละครคาบูกิ เรื่องเล่าของธูปมีหลายรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือใช้เรียกคนตายมาเพื่อพบเจอเพียงครั้งเดียวเท่านั้น อาจจะเป็นโอกาสให้กล่าวลา ก่อนลาจากกันไปตลอดกาล

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

*ภาพที่ปรากฏใช้เป็นเพียงภาพประกอบเรื่องเท่านั้น

/

เรื่องโดย. กรุเก่า

ภาพโดย. jp.rbth.com, dic.nicovideo.jp, thegate12.com, epark.jp, tabigo-media.net


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •