25 เมษายน 2024
แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

                ผีนางรำ…ขึ้นชื่อลือชามานักต่อนักแล้วว่าทั้งเฮี้ยนทั้งดุ ใครได้พบเจอหรือเห็นต้องมีอันขวัญกระเจิง เพราะนางจะมาทั้งเสียงดนตรีและการร่ายรำ…

                เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน นานๆ ครั้งถึงจะออกไปเตร็ดเตร่กับเพื่อน ซึ่งกิจวัตรประจำวันของฉันไม่มีอะไรมาก

                “นก เย็นนี้เลิกงานกินข้าวกันหน่อย ออยมันอยากคุยเรื่องเที่ยวกระบี่ โมก็มานะ ร้านที่เดิม หกโมงเจอกัน โอเคนะ”

                “ถามจริง แกไม่คิดจะเปลี่ยนร้านกันมั่งเหรอ ซ้ำซากว่ะ เปลี่ยนมั่ง ไปหาอะไรแซ่บๆ กิน”

                “ร้านหมูกระทะเหรอ”

                “นั่นหรือแซ่บ…ร้านเดิมก็ร้านเดิม เจอกันฟ้า”

                ปรากฏว่าพอเลิกงาน พวกเราก็รวมตัวกันที่ร้านเดิมเหมือนเดิม กินข้าวแล้วพูดคุยนัดหมายถึงเรื่องไปเที่ยวว่าจะเอายังไง มีไปกี่คน มีใครเพิ่ม จองที่พักยังไง ใครเป็นคนจัดการ ก็สรุปกันได้ไม่ยาก เพราะเราเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีตั้งแต่สมัยเรียน แต่ก็ไม่ซีเรียส เพราะช่วงที่เราจะไปเที่ยวกันเกือบปลายปี

                “กว่าจะได้ไปตั้งเกือบสิ้นปี อีกยาวนาน”

                “นกๆๆ แกเราต้องจองตั๋วเครื่องบิน ต้องเลือกตอนที่มันลดราคา แล้วพวกที่พัก จองก่อนได้ถูกเว้ย แถมนั่นนี่”

                ฉันแกล้งฟ้า แล้วเราก็หัวเราะกัน เพราะทางของพวกเราเป็นอย่างนั้น ส่วนเพื่อนคนไหนจะมาแจมเพิ่มก็ตามมา พอสักสองทุ่มกว่าพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านตามสไตล์ ช่วงรถติดมันก็ซาลงบ้างล่ะ ฉันขับลัดเลาะไม่ได้เลย เพราะทางการกำลังสร้างถนน มาโผล่ที่มีนบุรีได้ก็หายเหนื่อยเพราะเกือบถึงบ้านแล้ว พอถึงบ้านพูดคุยทักทายพ่อกับแม่ที่นั่งดูทีวีหน่อยหนึ่ง และไม่ลืมทักทายเจ้าตัวแสบของบ้านตัวโปรดของพ่อกับแม่

                “ว่าไงคุณชาย คุณลูกคนโปรด นี่พ่อกับแม่ฉันนะยะ” ฉันเอามือตีหัวเจ้าปลาทูเบาๆ ยังถูกแม่ดุ

                “อย่าไปทำน้อง…น้องกำลังนอน”

                “น้อง…เอ๊ะๆ หนูมีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่…อีทู…อีแมว แย่งความรักฉันไปหมดเลยนะ” ไม่มีอะไรฉันก็หยอกเจ้าปลาทูเล่น ซึ่งมันทำตาวาวร้องเมี้ยวๆ ฟ้องพ่อกับแม่ ดูสิฉลาดเหลือร้าย แต่บางครั้งมันก็ชอบมาขี้อ้อน มานอนบนเตียงของฉัน แต่มันจะติดพ่อกับแม่มากกว่า

                “เหนื่อยจัง อาบน้ำขึ้นนอนแล้ว แม่ พ่อ หนูหม่ำมาแล้ว” พ่อแม่ไม่ตอบเพราะท่านนั่งดูทีวี แต่เจ้าปลาทูร้องเมี้ยวๆ พอกำลังจะขึ้นบันไดหันไปมอง มันยังทำหัวตั้งแล้วก็ร้องเมี้ยวๆ เหมือนมันจะบอกอะไร…

                อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยมานั่งดูโทรศัพท์ พูดคุยกับเพื่อนๆ อีกหน่อย คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ขนาดปิดม่านแสงจันทร์ยังสาดส่องเข้ามาได้แบบเบาๆ ฉันซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม แอร์เย็นสบาย หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว…

                แตรง…แตร็ง…แตร่ง…แตร๊ง…แตรงๆๆๆ…

                แตรง…แตร็ง…แตร่ง…แตร๊ง…แตรงๆๆๆ…

                มีเสียงดนตรีไทยลอยลมมาแต่ไกล เคลิ้มๆ ในความรู้สึกขมุกขมัว…ได้ยินไกลบ้างใกล้บ้างเหมือนกำลังฝัน แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงนั้นมันดังรัวขึ้น ฉันตกใจตื่นลืมตาขึ้น เงียบ…ฉันคงฝันไป เออ เราฝันอะไรตลก พลิกซ้ายพลิกขวาหาท่านอนต่อใหม่ แล้วฉันก็นอนตะแคงหันหน้าไปทางหน้าต่าง ขยับเนื้อตัวให้เข้าที่ แล้วแวบหนึ่ง ฉันเห็นเงาบางอย่างวืดผ่านหน้าต่างไปทั้งที่ปิดม่านอยู่ แต่มองไม่ชัดเพราะมันเร็วมาก

                อะไรวะ…ใบไม้ ต้นไม้มั้ง ฉันมองไปที่หน้าต่าง คราวนี้เงานั้นวิ่งผ่านอีกรอบจนฉันร้องเฮ้ย…เพราะเงามันเหมือนคนมาก แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อฉันอยู่ชั้นสอง ฉันดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอ คราวนี้เสียงเครื่องดนตรีไทยก็ดังขึ้นอีกครั้ง เอาละซี แล้วเงานั้นก็มาหยุดยืนอยู่ตรงกลางช่องหน้าต่างด้วย เพราะมีม่านฉันจึงเดาเอาจากรูปร่างของเงา

                แตรง…แตร็ง…แตร่ง…แตร๊ง…แตรงๆๆๆ…

                ที่หัวมีอะไรแหลมๆ สวมอยู่…ชฎา ใช่ๆ แต่เหมือนมันหักเอียงไปด้านข้าง แล้วมือสองข้างที่กางแขนออกเหมือนกำลังร่ายรำ แขนข้างหนึ่งข้อมือหักห้อย แขนอีกข้างมีแค่ข้อศอก ผ้าสไบที่ใส่หลุดลงมา แต่ร่างเงานั้นก็ยังร่ายรำ ฉันกลัวสุดขีด รีบเอาผ้าห่มคลุมโปง แต่ก็ยังได้ยินเสียงดนตรีไทยเล่นไปเรื่อยๆ

                ผี….ผีนางรำที่ไหน…เราไม่เคยทำอะไรให้ คุณพระคุณเจ้า ฉันพยายามสวดมนต์แต่สวดไม่ได้ เพราะความกลัวเลยสวดกลับไปกลับมา แต่ก็ปลอบตัวเองไม่ต้องกลัว…ไม่ต้องกลัว มันอยู่นอกบ้าน จะวิ่งออกจากห้องก็ลุกไม่ขึ้น แล้วเสียงดนตรีก็กลับดังขึ้นเหมือนอยู่ใกล้ๆ เหมือนอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงกระพรวนเท้ากระแทกเป็นจังหวะๆ ทีแรกฉันคิดว่าเจ้าปลาทูเข้ามา แต่เอาวะ ตัดสินใจค่อยๆ แง้มผ้าห่มออกนิดหนึ่ง แล้วฉันก็แทบฉี่ราด

                ผีนางรำ…มายืนรำอยู่ที่ปลายเตียงในสภาพที่น่ากลัวสุดขีด…ที่หัวยอดชฎาหัก ใบหน้าหล่อนลูกตาไม่มีข้างหนึ่ง แขนตามที่เห็นจากเงา ข้างหนึ่งข้อมือหักห้อยร่องแร่ง อีกข้างกุดมีแค่ข้อศอก สไบหลุดห้อยลงมา…แล้วนางก็รำๆ อยู่ปลายเตียง สุดจะเกินรับไหว สติฉันหลุดกระเด็นพร้อมกับเสียงที่ได้ยินครั้งสุดท้าย เสียงกระพรวนเคล้าเสียงดนตรีไทย

                มาได้ยินเสียงอีกครั้งเหมือนคนบิดลูกบิดเปิดประตูเข้ามา ตาฉันยังลืมไม่ขึ้น มีเสียงบ่นที่ฟังไม่ถนัดแต่คุ้นหู “สงสัยอยู่ในนี้แน่ๆ นกยังไม่ตื่นเหรอ สายแล้ว แต่นอนไปเถอะวันหยุด อยู่ไหนนะ…” แล้วมีเสียงเหมือนใครกำลังกวาดอะไรเสียงดังฟืดๆ “เจอแล้ว อยู่นี่เอง ว่าแล้วเชียว เมื่อวานเห็นมันมาเล่นที่ห้องนก เจ้านี่มันแสบจริงๆ เอามากัดซะพังหมด ต้องไปหาซื้อมาเปลี่ยนใหม่”

                แม่…นั่นเสียงแม่แน่ๆ กำลังจะเดินออกจากห้อง ฉันร้องเรียก “แม่ แม่…มานี่ก่อน” ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง “แม่ เมื่อคืนนกถูกผีหลอก…น่ากลัวมากแม่ ที่บ้านเรามีผีได้ยังไง หรือว่าเขาตามนกมา น่ากลัวมากๆ”

                “แกฝันหรือเปล่า…บ้านเราไม่เคยมีนะ ผงผีอะไรกัน”

                แล้วฉันก็ค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์เล่าให้แม่ฟัง แม่ลงนั่งบนเตียงฟังฉันพูดด้วยอาการนิ่งสงบ “มันน่ากลัวมาก หนูกลัวจนหนูว่าหนูสลบไปเลยนะ…โอ๊ยน่ากลัว”

                แล้วแม่ก็ชูตุ๊กตานางรำที่เนื้อตัวเสียหายขึ้นมา ฉันผงะถอยแทบจะขึ้นไปนั่งบนหัวเตียง “ตัวนี้หรือเปล่า ใส่ชุดแบบนี้ใช่ไหม ไม่ต้องกลัวลูก แม่อยู่นี่” แล้วแม่ก็จับตุ๊กตากางแขนกางขาตรวจความเสียหาย เหมือนที่ฉันบอกเป๊ะเลย “แม่รู้ละ เขาคงไม่ได้ตั้งใจมาหลอก เขาคงอยากจะบอกว่าตัวเขาพัง…ก็เมื่อวานตอนเย็น แม่เห็นปลาทูมันเอาอะไรมาฟัดเล่นที่ใต้เตียง ไม่คิดว่ามันจะแสบไปเอาตุ๊กตานางรำที่ศาลพระภูมิมากัดเล่นในห้องหนู พอดีเขาอยู่ห้องหนู เขาเลยฟ้องหนูแน่ๆ เลย ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวบ่ายๆ แม่จะไปซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนที่ศาลพระภูมิ ไม่ต้องมาบอกเขาแบบนี้นะจ๊ะ แบบนี้ใครๆ ก็กลัว ปลาทูนี่มันซนจริงๆ”

                แม่หัวเราะ ฉันถูกตุ๊กตานางรำหลอกนี่นะ เพราะใคร…เพราะอีปลาทูนี่นะ ฉันอยากฟาดมันสักป้าบ

                “แม่…นกโดนผีหลอกเพราะอีทูนี่นะ แม่ยังขำอีก ไม่หัวโกร๋นก็บุญแล้ว ดูสิผมเริ่มร่วงแล้ว ไม่รู้แหละ หนูจะตีมัน”

                “เดี๋ยวแม่ดุมันให้ ตีมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก เชื่อแม่…แม่ว่ามันรักหนูนะ เอาของเล่นมาฝาก”

                “เอาของแบบนี้นี่นะมาฝาก…หนูรู้แล้ว อีทูลูกจริงหนูลูกเลี้ยง”

                แม่เดินขำออกไปพร้อมกับตุ๊กตานางรำตัวนั้น หลังจากวันนั้นฉันยอมรับว่าฉันโกรธเจ้าปลาทูมาก มันก็พยายามง้อนะ มาร้องเหมียวๆ อยู่ใกล้ๆ พยายามเอาตัวมาถูตามขาแต่ฉันก็หนี แต่เป็นเรื่องขำของแม่จริงๆ หลังจากนั้นเห็นแม่ไปจุดธูปแล้วมักจะเอาธูปมาตีเป็นเลข ซึ่งแม่ก็ถูกบ่อยๆ มากบ้างน้อยบ้าง

                “นก พอแม่ซื้อหุ่นเขามาเปลี่ยนให้ใหม่ เขาก็ให้โชคแม่อยู่เรื่อยๆ นะ งานนี้ต้องขอบใจปลาทู”

                “แม่…!!” ฉันร้องเรียกแม่เสียงสูง…ลูกถูกผีหลอกกลับเป็นความชอบของอีทู แม่กับพ่อหมอบราบคาบแก้วเป็นทาสอีปลาทูแมวตัวแสบไปแล้วเต็มตัวค่ะ นี่แหละ ฉันคิดว่ายังไงก็จะขอเอาคืนอีทูสักป้าบ แต่พอมันมาออดอ้อนก็อดกอดไม่ได้ เฮ้อ…แมวก็คือแมว แม้ว่ามันจะแอบเจ้าเล่ห์ก็เถอะ…

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

*ภาพที่ปรากฏใช้เป็นเพียงภาพประกอบเรื่องเท่านั้น

/

เรื่องโดย. กฤตยา อยู่ประเสริฐ

ภาพโดย. www.worthpoint.com, www.ebay.com


แชร์เรื่องนี้:
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •