ปั๊มน้ำมันพญานาค

                เรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนได้ยินได้ฟังมาเมื่อครั้งขึ้นไปถ่ายทำสารคดีที่ภาคเหนือ ครั้งนั้นผู้เขียนแวะถ่ายทําตามรายทางเรื่อยไปจากนครสวรรค์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร อุตรดิตถ์ไปเรื่อยๆ พบเรื่องแปลกมากมาย

                และหนึ่งในนั้นก็คือ…เรื่องแปลกๆ ที่ผู้เขียนจะเล่าต่อไปนี้ ซึ่งพานพบและได้สอบถามจากผู้ที่พอจะทราบเรื่องราวละแวกนั้น เรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และสถานที่ที่จะเอ่ยเล่าเรื่องที่แสนจะเหลือเชื่อ และออกจะประหลาดที่ว่านี้ก็คือ ปั๊มนํ้ามันแห่งหนึ่ง

                ที่จริงจะเรียกว่าปั๊มน้ำมันก็เห็นจะไม่ถูก เพราะปั๊มน้ำมันที่ว่านี้ปัจจุบันสิ้นสภาพความเป็นปั๊มน้ำมันไปนานแล้ว

                คนเก่าๆ เล่าว่ามันมีสภาพเป็นปั๊มน้ำมันก็จริง แต่ตลอดเวลามันไม่เคยได้เปิดหรือมีโอกาสได้ทำหน้าที่ปั๊มน้ำมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรื่องราวที่ว่านั้น ผู้คนละแวกนั้นที่ทันพอจะทราบเรื่องได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า…มีปั๊มน้ำมันอยู่ปั๊มหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่บัดนี้เป็นปั๊มร้างไปเสียแล้ว และสาเหตุของปั๊มน้ำมันแห่งนี้ที่จำต้องร้างและเลิกกิจการ ก็เพราะมีสาเหตุที่ลึกลับอยู่

                ปั๊มที่ว่านี้ แต่ก่อนเดิมทีเป็นปั๊มใหญ่โต มีบ้านพักของเจ้าของมีมินิมาร์ท อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ยังตั้งอยู่ในที่ที่น่าสนใจ และง่ายต่อการพบเห็นของผู้สัญจรหรือใช้ยวดยานไปมา แต่แล้วด้วยเหตุที่ลึกลับเหนือคำบรรยาย ก็มีเหตุให้ปั้มน้ำมันแห่งนี้มีอันเป็นไป ที่จริงถ้าเป็นเรื่องพื้นๆ ก็ไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเรื่องนี้กลับมีเรื่องราวในตำนานมาเกี่ยวข้องด้วย

                เรื่องที่ว่านี้แรกเริ่มเดิมทีว่ากันว่าแต่เดิมในอดีต พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวนี้ยังไม่ค่อยมีผู้คนไปจับจองทำประโยชน์อะไรมากนัก มีสภาพเดิมที่คล้ายจะเป็นป่าละเมาะรกทึบ และยังไม่มีใครเข้าไปหักร้างถางพงทำประโยชน์ใดๆ เลย แต่เมื่อสภาพแวดล้อมละแวกนั้นเริ่มเจริญ และความเจริญที่ว่าเริ่มขยายตัวขึ้น ผู้ที่อาศัยอยู่แถบนั้นและที่ใกล้เคียงก็เริ่มมองหาที่ดินทำกิน

                สุดท้ายที่ดินที่เดิมเป็นเสมือนป่าละเมาะผืนนี้ก็ถูกครอบครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงสัตว์ โดยมีการสร้างคอกเลี้ยงวัว เลี้ยงสัตว์อื่นๆ ไว้ใกล้ๆ ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าดูไปๆ ก็ปกติดี และบางคนว่าออกจะเหมาะสม เพราะห่างจากหมู่บ้าน และไม่รบกวนใครในบริเวณนั้นด้วย

                เพียงแต่ว่าเจ้าของสัตว์ไม่รู้ว่ามีอาถรรพ์อยู่ในที่ดินผืนนั้น เขาจึงยังคงเลี้ยงสัตว์อยู่ต่อไปโดยไม่ได้ระแคะระคายอะไรเลยจนนิดเดียว แต่แล้วคืนหนึ่งเขาก็รู้สึกแปลก เพราะจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก พร้อมกับได้ยินเสียงวัว และสัตว์อื่นๆ ร้องกันระงม

                โดยเฉพาะวัวที่นอกจะร้องดังลั่นแล้ว ยังพากันวิ่งวนในคอกเหมือนจะตื่นอะไรบางอย่างด้วย ซึ่งเป็นธรรมชาติของวัว…หากตื่นแล้วจะวิ่งวนในคอก…หากปล่อยออกมาก็จะเตลิดไปที่อื่น

                คืนแรกยังไม่เท่าไหร่ แต่คืนที่สอง สาม และคืนต่อๆ มากลับทวีความน่ากลัว และความรุนแรงขึ้นอีก นอกจากนี้เจ้าของคอกเองก็ยังฝันร้ายได้ตลอดเวลา แทบจะไม่เป็นอันหลับอันนอน มีหลายครั้งที่ฝันว่ามีคนมาไล่ให้ออกไปจากที่ตรงนี้ เพราะบอกว่าที่นี่เป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมของพวกพญานาค ในฝันนั้นเขาไม่เชื่อก็เลยถูกหลอกถูกหลอน และถูกรบกวนจากการตื่นเตลิดของวัวและสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้

                ท้ายที่สุดเขาก็เลยได้แต่จ้างคนมาเฝ้าแทน…แต่ทว่าคนที่ว่าจ้างมาเฝ้านั้นก็เฝ้าได้ไม่นานต้องเตลิดหนีไป เพราะตัวเองก็ฝันร้ายทุกคืน แถมยังฝันว่ามีคนมาขู่ฆ่า มีคนมาข่มขู่ และเห็นภาพหลอนของอะไรต่อมิอะไรในสถานที่แห่งนั้นแทบจะไม่เว้นแต่ละวัน สุดท้ายเขาก็ต้องถอยออกไปจากที่นั้น เพราะทนไม่ไหวจากการตื่นของวัว และจากฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนพวกเขาทุกคืน

                รายแรกนี้ยอมถอยออกไปโดยไปอยู่ในที่ดินอีกผืนหนึ่งที่ไกลจากที่นั่นไม่มากนัก แต่ทว่าก็ไกลพอที่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนแถวนั้นยังบอกอีกว่า… “ติดกับบริเวณที่เป็นคอกวัวนั้น มีสระน้ำที่มีน้ำใสเต็มเปี่ยม น้ำที่ว่านี้ใสตลอด ไม่เคยขุ่นเป็นโคลนตม หรือจะมีตะไคร่น้ำ สิ่งปฏิกูลอะไรขึ้นมาเลย”

                แถมในฤดูแล้งที่สถานที่อื่นๆ แล้งน้ำ แต่ทว่าในสระนี้น้ำก็ยังคงมีมากเท่าเดิม และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด เคยมีเด็กๆ เข้าไปเล่นน้ำในที่นั้น แล้วจู่ๆ ก็ตกใจวิ่งออกมา ปากบอกว่ามีคนขึ้นมาจากบ่อน้ำนั้นหลายคนเลยทีเดียว ครั้นไถ่ถามดูก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนที่ขึ้นมานั้นเป็นใครในหมู่บ้าน หรือว่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาอะไรเลย

                ริมสระน้ำมีต้นโพธิ์และต้นไทรขึ้นอยู่อย่างละต้น มีเหตุแปลกๆ เกิดขึ้นต่อสายตาชาวบ้านละแวกนี้เป็นประจำ เช่น พอวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ก็มักจะมีลูกไฟลอยขึ้นจากพื้นดิน และสระน้ำ หรือวันดีคืนดีก็จะมีคนเห็นงูใหญ่เลื้อยผ่านหมู่บ้าน แล้วเลื้อยลงสระหายไปอย่างไร้ร่องรอย หรือในช่วงฤดูฝน แม้ท้องฟ้าจะโปร่งใส แต่ก็มีสายฟ้าฟาดดังลั่นสนั่นหวั่นไหว…ดังกัมปนาทจนแผ่นดินสะเทือนก็หลายครั้ง และบางครั้งก็มีคนเห็นสายฟ้าพุ่งขึ้นมาจากบ่อแห่งนี้แล้วหายไปในอากาศ หรือหายไปบนท้องฟ้าเบื้องบน

                ที่ดินที่ว่านี้แม้จะมีคนมาจับจองหลายคน แต่ก็ไม่มีสักคนเดียวที่จะกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะต่างก็รู้ถึงอาถรรพ์ต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ในสถานที่นี้

                หลายปีต่อมามีนายทหารยศพันตรีผ่านมาแถวนี้เห็นที่ดินก็เกิดความพอใจ ขอซื้อต่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องปราบไถที่ดินให้เรียบเสียก่อนด้วย

                ชาวบ้านที่เป็นคนรุ่นหลังดีใจที่มีคนมาซื้อที่ ก็เข้าไปปรับที่ถมที่กัน แต่ก็ปรับที่ถมที่ไม่ได้ เพราะเอารถจะมาไถปราบต้นโพธิ์พอ ถึงต้นโพธิ์รถก็หยุดเสียเฉยๆ พอจะปราบต้นไทรก็ปรากฏว่าจู่ๆ พื้นก็ทรุด รถไถเลยตกหล่มเอาขึ้นไม่ได้ เป็นอย่างนี้อยู่นาน ทำอย่างนั้นอย่างนี้ติดขัด ไม่มีอะไรง่ายเลย

                มีคนหนึ่งอุตริแก้เคล็ดอาถรรพ์ โดยการแก้ผ้า นุ่งแต่กางเกงในขับรถ ก็ปรากฏว่ารถเครื่องไม่ดับ ขณะที่ชาวบ้านกำลังทำงานอยู่นั้น จู่ๆ หัวหน้าคนงานก็มาบอกกับทุกคนว่า “พอเลย หยุดเลย อะไรๆ ที่ทำค้างไว้แค่ไหนหยุดเอาไว้แค่นั้น เพราะวันนี้ก่อนบ่ายสามโมง มีข่าวแจ้งมาบอกว่า…นายพันที่จะมาซื้อที่คนนั้น รถคว่ำตายเสียแล้ว ทุกอย่างถือเป็นยกเลิก”

                ส่วนคนงานที่แก้ผ้าคนนั้น ก็ปรากฏว่าตกดึกก็จับไข้ ไข้ขึ้นสูงจนไม่ได้สติ รุ่งขึ้นหมอมาดูอาการก็ไม่พบสาเหตุ ซ้ำอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ สองสามวันต่อมาหมอนี่ก็อาการไม่ดีขึ้น ถึงขั้นอาเจียนเป็นเลือด แล้วไม่นานก็สิ้นใจ

                สิ่งที่เกิดขึ้นมา ยิ่งย้ำเตือนกับชาวบ้านมากขึ้น จนทุกคนเข็ดขยาด ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งในที่ดินผืนนั้นอีก พอเรื่องนี้ซาลงไปสักสามถึงห้าปี ก็มีเหยื่อรายใหม่มาอีก

                รายนี้มีไอเดียจะทำปั๊มน้ำมัน แต่ไม่ยอมฟังคำทัดทานของชาวบ้านและญาติผู้ใหญ่ เขาโลภเสียจนความโลภบังตาและไม่ฟังเสียงของใครๆ เลย เขาวางแผนสร้างปั๊มน้ำมันใหญ่โต แถมซื้อที่ดินได้ถูกเหมือนได้เปล่า ไม่นานก็ลงทุนจ้างวิศวกรจากนอกมาสร้างปั๊ม เพราะผู้รับเหมาในตัวจังหวัดไม่มีใครเอาด้วยสักรายเดียว

                คราวนี้สร้างสําเร็จ แต่ก็เกิดเรื่องแปลกๆ เข้าจนได้ เพราะทันทีที่เปิดปั๊ม รถราที่วิ่งผ่านหลายคันขับจะเข้าปั๊ม หรือเบี่ยงหัวเข้ามา ก็เป็นอันจอดนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่เข้าปั๊มเหมือนเห็นอะไร แล้วก็หันหัวออกจากปั๊มไปปั๊มอื่นทุกราย เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย จนปั๊มก็สุดจะตั้งกิจการอยู่ได้ ต้องหมดตัวและเลิกกิจการไปในที่สุด

                ครั้งหนึ่งเจ้าของปั๊มไปนั่งทางในกับหมอพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ถึงได้รับคำตอบว่า…ที่ดินดังกล่าวเป็นประตูสู่โลกบาดาลของพญานาคสามเศียร ท่านพิโรธที่ไปสร้างปั๊มบดบังสถานที่บำเพ็ญเพียรของท่าน จึงบันดาลให้ผู้ที่ผ่านไปมามองปั๊มไม่เห็น แต่เจ้าของไม่เชื่อ เลยพบกับความฉิบหายดังกล่าว

                ทุกวันนี้ปั๊มที่ว่านั้นเป็นปั๊มร้าง แต่ก็ยังมีคนเห็นหญิงชายแปลกหน้า นุ่งขาวห่มขาวหายเข้าไปในปั๊มนั้นอยู่หลายครั้ง และเชื่อว่าคนเหล่านั้นคือพญานาคแปลงมานั่นเอง

*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

*ภาพที่ปรากฏใช้เป็นเพียงภาพประกอบเรื่องเท่านั้น

เรื่องโดย. สุชาติ สุทธิกาวิลกุล

ภาพโดย. cz.pinterest.com, www.เลขเด็ด.com, www.lensculture.com, www.pixabay.com, www.sites.google.com